
ดิสนีย์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นดินแดนแห่งความฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีแต่รอยยิ้มและความสุข และเป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งทันทีที่เราเข้าไปในสวนสนุก จะได้รับการโบกมือทักทายจากพนักงานทุกคนที่ส่งรอยยิ้มให้เราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพนักงานดูแลเครื่องเล่น พนักงานขายอาหารและเครื่องดื่ม พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย ทุกคนยิ้มแย้มและหัวเราะตลอดเวลา ราวกับว่าโลกทั้งใบมีแค่เรื่องสดใสสวยงาม และไม่มีความทุกข์ใด ๆ อยู่เลย
สวนสนุกดิสนียแลนด์ และดิสนีย์เวิลด์ทั่วโลก มีพนักงานรวมกันมากกว่า 100,000 คน ซึ่งดิสนีย์จริงจังกับเรื่องการเทรนพนักงานให้มีทัศนคติคิดบวก ต้องยิ้มแย้ม ร่าเริงอยู่เสมอ โดยบอกว่าพนักงานทุกคนคือนักแสดง เมื่อเข้ามาทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ และอยู่ระหว่างการทำงาน ทุกคนต้องสวมบทบาทการเป็นนักแสดงที่มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ซึ่งนักแสดงไม่ได้หมายถึงนักแสดงที่อยู่บนเวที หรือนักแสดงที่ร่วมเดินขบวนพาเหรดเท่านั้น แต่พนักงานทุกคนที่อยู่ภายในสวนสนุก ล้วนเป็นนักแสดง ที่มีเป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือการสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน นี่คือสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องเรียนรู้จากการทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ตั้งแต่วันแรก
หลายคนอาจจะคิดว่า การยิ้มและโลกมือให้นักท่องเที่ยวเป็นงานที่ดูง่าย และไม่มีอะไรยาก อย่างไรก็ตาม การที่ต้องสวมบทบาทและยิ้มให้นักท่องเที่ยวตลอดเวลา เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้ Business Insider รายงานว่าพนักงานดิสนีย์อาจเริ่มต้นทำงานตั้งแต่ตอนตี 4 เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่ก่อนที่ประตูสวนสนุกจะเริ่มเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในตอนเช้า และคนที่ทำงานกะดึกอาจต้องเลิกงานตอนตี 3 เพื่อตรวจสภาพของสวนสนุกหลังปิดให้บริการ
เนื่องจากการทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ เป็นงานหนักและต้องสวมบทบาทยิ้มแย้มตลอดเวลา ซึ่งนอกจากการเทรนนิงที่เข้มข้นแล้ว การคัดเลือกพนักงานตั้งแต่เริ่มต้นจึงมีความสำคัญมาก ฝ่าย HR จะพิจารณาบุคลิกภาพและทัศนคติของแต่ละคนว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับการทำงานกับดิสนีย์แลนด์ได้หรือไม่ หากใครที่มีทัศนคติเป็นบวกอยู่แล้ว และพร้อมเรียนรู้ ก็สามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานกับดิสนีย์แลนด์ได้ไม่ยาก แต่หากใครมีทัศนคติที่เป็นลบ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเทรนและปรับทัศนคติให้ทำงานร่วมกันได้ ที่สำคัญพนักงานทุกคนต้องมีใจรักในแบรนด์ดิสนีย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เมื่อได้ทำงานที่ดิสนีย์แล้ว ก็มีกฎระเบียบมากมายที่พนักงานดิสนีย์ต้องปฏิบัติ และมีหลายคนที่ถูกไล่ออก เพราะไม่สามารถทำตามได้ เช่น มีรายงานว่าเคยมีพนักงานถูกไล่ออก เพราะหยิบป็อปคอร์นที่หล่นใส่เสื้อขึ้นมากิน มีคนที่ถูกไล่ออก เพราะนั่งพักบนเก้าอี้ ต่อหน้าแขกคนอื่น หรือมีนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นเจ้าหญิง เคยถูกไล่ออก เพราะโพสต์ภาพตัวเองตอนเด็ก ๆ ใส่ชุดเจ้าหญิง เพราะอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเจอเธอ ไม่เชื่อว่าเธอเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ
สรุปข่าว
ดิสนีย์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก เป็นดินแดนแห่งความฝันของทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีแต่รอยยิ้มและความสุข และเป็นสวนสนุกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ซึ่งทันทีที่เราเข้าไปในสวนสนุก จะได้รับการโบกมือทักทายจากพนักงานทุกคนที่ส่งรอยยิ้มให้เราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นพนักงานดูแลเครื่องเล่น พนักงานขายอาหารและเครื่องดื่ม พนักงานทำความสะอาด พนักงานรักษาความปลอดภัย ทุกคนยิ้มแย้มและหัวเราะตลอดเวลา ราวกับว่าโลกทั้งใบมีแค่เรื่องสดใสสวยงาม และไม่มีความทุกข์ใด ๆ อยู่เลย
สวนสนุกดิสนียแลนด์ และดิสนีย์เวิลด์ทั่วโลก มีพนักงานรวมกันมากกว่า 100,000 คน ซึ่งดิสนีย์จริงจังกับเรื่องการเทรนพนักงานให้มีทัศนคติคิดบวก ต้องยิ้มแย้ม ร่าเริงอยู่เสมอ โดยบอกว่าพนักงานทุกคนคือนักแสดง เมื่อเข้ามาทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ และอยู่ระหว่างการทำงาน ทุกคนต้องสวมบทบาทการเป็นนักแสดงที่มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา ซึ่งนักแสดงไม่ได้หมายถึงนักแสดงที่อยู่บนเวที หรือนักแสดงที่ร่วมเดินขบวนพาเหรดเท่านั้น แต่พนักงานทุกคนที่อยู่ภายในสวนสนุก ล้วนเป็นนักแสดง ที่มีเป้าหมายที่สำคัญที่สุด คือการสร้างความสุขให้กับนักท่องเที่ยวทุกคน นี่คือสิ่งที่พนักงานทุกคนต้องเรียนรู้จากการทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ตั้งแต่วันแรก
หลายคนอาจจะคิดว่า การยิ้มและโลกมือให้นักท่องเที่ยวเป็นงานที่ดูง่าย และไม่มีอะไรยาก อย่างไรก็ตาม การที่ต้องสวมบทบาทและยิ้มให้นักท่องเที่ยวตลอดเวลา เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยกว่าที่หลายคนคาดคิดไว้ Business Insider รายงานว่าพนักงานดิสนีย์อาจเริ่มต้นทำงานตั้งแต่ตอนตี 4 เพื่อเตรียมความพร้อมของสถานที่ก่อนที่ประตูสวนสนุกจะเริ่มเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวในตอนเช้า และคนที่ทำงานกะดึกอาจต้องเลิกงานตอนตี 3 เพื่อตรวจสภาพของสวนสนุกหลังปิดให้บริการ
เนื่องจากการทำงานที่ดิสนีย์แลนด์ เป็นงานหนักและต้องสวมบทบาทยิ้มแย้มตลอดเวลา ซึ่งนอกจากการเทรนนิงที่เข้มข้นแล้ว การคัดเลือกพนักงานตั้งแต่เริ่มต้นจึงมีความสำคัญมาก ฝ่าย HR จะพิจารณาบุคลิกภาพและทัศนคติของแต่ละคนว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับการทำงานกับดิสนีย์แลนด์ได้หรือไม่ หากใครที่มีทัศนคติเป็นบวกอยู่แล้ว และพร้อมเรียนรู้ ก็สามารถปรับตัวเข้ากับการทำงานกับดิสนีย์แลนด์ได้ไม่ยาก แต่หากใครมีทัศนคติที่เป็นลบ ก็คงเป็นเรื่องยากที่จะเทรนและปรับทัศนคติให้ทำงานร่วมกันได้ ที่สำคัญพนักงานทุกคนต้องมีใจรักในแบรนด์ดิสนีย์ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
เมื่อได้ทำงานที่ดิสนีย์แล้ว ก็มีกฎระเบียบมากมายที่พนักงานดิสนีย์ต้องปฏิบัติ และมีหลายคนที่ถูกไล่ออก เพราะไม่สามารถทำตามได้ เช่น มีรายงานว่าเคยมีพนักงานถูกไล่ออก เพราะหยิบป็อปคอร์นที่หล่นใส่เสื้อขึ้นมากิน มีคนที่ถูกไล่ออก เพราะนั่งพักบนเก้าอี้ ต่อหน้าแขกคนอื่น หรือมีนักแสดงที่สวมบทบาทเป็นเจ้าหญิง เคยถูกไล่ออก เพราะโพสต์ภาพตัวเองตอนเด็ก ๆ ใส่ชุดเจ้าหญิง เพราะอาจทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเจอเธอ ไม่เชื่อว่าเธอเป็นเจ้าหญิงจริง ๆ
นอกจากนี้ พนักงานดิสนีย์ต้องรับมือปัญหาจากนักท่องเที่ยวที่สร้างความวุ่นวายไม่เว้นแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่พยายามแซงคิวเครื่องเล่น นักท่องเที่ยวฝ่าฝืนกฎ นักท่องเที่ยวที่รบกวนผู้อื่น ซึ่งทั้งหมดนี้ พนักงานต้องรับมือด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม และไม่แสดงความหงุดหงิดออกมาให้นักท่องเที่ยวคนอื่นเห็นเด็ดขาด ซึ่งหากไม่มีการเทรนนิงที่ดีแล้ว พนักงานจะไม่สามารถรับมือกับความตึงเครียดเหล่านี้ได้เลย
แม้ว่าการทำงานที่ดิสนีย์แลนด์จะเป็นงานที่หนักและท้าทาย แต่ว่าทางดิสนีย์แลนด์ก็พยายามปรับปรุงระบบการทำงานให้พนักงานแต่ละคนมีเวลาได้พักผ่อนที่เพียงพอ และไม่เครียดจนเกินไป เพราะดิสนีย์เชื่อมั่นในหลักการดูแลพนักงานที่เรียกว่า “ถ้าพนักงานมีความสุข แขกก็มีความสุข”
- เที่ยวไทยคึกคัก! นักท่องเที่ยวสะสมทะลุ 28 ล้านคน สร้างรายได้ 1,308,132 ล้าน
- ต่างชาติแห่เที่ยวไทย 10 เดือน พุ่ง 26.8 ล้านคน โกยรายได้ 1.24 ล้านลบ.
- "คนจีน" แห่เที่ยวอวดรวย โชว์ขี่อูฐ ดูทะเลทราย ยอดบิน-ที่พักตะวันออกกลางพุ่ง 400%
- ต่างชาติเที่ยวไทย 6-12 ต.ค. แตะ 522,169 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 13.63%
- คนจีนกลับมาแล้ว? "Golden Week" นักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย พุ่งครองแชมป์ แตะ 1 แสนคน
ที่มาข้อมูล : Business Insider
ที่มารูปภาพ : Getty Images
