ผู้ก่อเหตุกราดยิงหาดบอนได ได้รับแรงจูงใจจากกลุ่มไอเอส

Share on Line Share on Facebook Share on X
ผู้ก่อเหตุกราดยิงหาดบอนได ได้รับแรงจูงใจจากกลุ่มไอเอส

แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุกราดยิงชายหาดบอนได ในนครซิดนีย์ ที่มุ่งเน้นเป้าหมายไปที่งานเทศกาลชาวยิว จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และผู้ก่อเหตุ 2 คนที่เป็นพ่อลูกกัน คนที่เป็นพ่อถูกตำรวจยิงวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนที่เป็นลูกถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับแรงจูงใจจากแนวคิดของกลุ่มไอเอส ที่พยายามเผยแพร่ความเกลียดชัง และยั่วยุให้คนก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ แบบที่เพิ่งเกิดขึ้น

เขายังบอกว่าการก่อเหตุครั้งนี้ มีการวางแผน มีการคำนวน และลงมืออย่างเลือดเย็น ซึ่งผลการสอบสวนในตอนนี้ พบว่าผู้ก่อเหตุ 2 คน ที่เป็นพ่อลูกกัน ลงมือก่อเหตุกันเองแค่ 2 คน โดยไม่ได้มีผู้อื่นเกี่ยวข้อง

 นอกจากนี้ อัลบาเนซีได้เรียกประชุมผู้นำของรัฐและดินแดนต่าง ๆ ของออสเตรเลียเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว และเห็นพ้องร่วมกันว่า “จะคุมเข้มกฎหมายอาวุธปืนทั่วประเทศ”

สำนักงานนายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ประชุมตกลงจะพิจารณามาตรการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบประวัติผู้ครอบครองอาวุธปืน, การห้ามชาวต่างชาติที่ไม่ใช่พลเมืองขอใบอนุญาตครอบครองปืน และการจำกัดประเภทของอาวุธที่อนุญาตให้ครอบครองได้ตามกฎหมาย

เหตุกราดยิงสังหารหมู่ เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในออสเตรเลียนับตั้งแต่เหตุคนร้ายเพียงคนเดียวสังหารผู้คน 35 ราย ในเมืองท่องเที่ยวพอร์ตอาร์เธอร์ เมื่อปี 1996

โศกนาฏกรรมครั้งนั้นนำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายอาวุธปืนครั้งใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานว่าเป็นมาตรฐานระดับโลก

มาตรการดังกล่าวรวมถึงโครงการรับซื้อคืนอาวุธปืน, การจัดทำทะเบียนอาวุธปืนระดับชาติ และการกวาดล้างการครอบครองอาวุธกึ่งอัตโนมัติ

สรุปข่าว

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียเปิดเผยว่า สองพ่อลูกที่ก่อเหตุกราดยิงที่ชายหาดบอนได ในนครซิดนีย์ จนมีผู้เสียชีวิต 15 คน ได้รับแรงจูงใจจากกลุ่มไอเอส ที่พยายามเผยแพร่ความเกลียดชังและชักจูงคนให้ใช้ความรุนแรง

แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียเกี่ยวกับแรงจูงใจของผู้ก่อเหตุกราดยิงชายหาดบอนได ในนครซิดนีย์ ที่มุ่งเน้นเป้าหมายไปที่งานเทศกาลชาวยิว จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย และผู้ก่อเหตุ 2 คนที่เป็นพ่อลูกกัน คนที่เป็นพ่อถูกตำรวจยิงวิสามัญเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนที่เป็นลูกถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ดูเหมือนว่าผู้ก่อเหตุจะได้รับแรงจูงใจจากแนวคิดของกลุ่มไอเอส ที่พยายามเผยแพร่ความเกลียดชัง และยั่วยุให้คนก่อเหตุฆาตกรรมหมู่ แบบที่เพิ่งเกิดขึ้น

เขายังบอกว่าการก่อเหตุครั้งนี้ มีการวางแผน มีการคำนวน และลงมืออย่างเลือดเย็น ซึ่งผลการสอบสวนในตอนนี้ พบว่าผู้ก่อเหตุ 2 คน ที่เป็นพ่อลูกกัน ลงมือก่อเหตุกันเองแค่ 2 คน โดยไม่ได้มีผู้อื่นเกี่ยวข้อง

 นอกจากนี้ อัลบาเนซีได้เรียกประชุมผู้นำของรัฐและดินแดนต่าง ๆ ของออสเตรเลียเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ดังกล่าว และเห็นพ้องร่วมกันว่า “จะคุมเข้มกฎหมายอาวุธปืนทั่วประเทศ”

สำนักงานนายกรัฐมนตรีระบุว่า ที่ประชุมตกลงจะพิจารณามาตรการต่าง ๆ เช่น การปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบประวัติผู้ครอบครองอาวุธปืน, การห้ามชาวต่างชาติที่ไม่ใช่พลเมืองขอใบอนุญาตครอบครองปืน และการจำกัดประเภทของอาวุธที่อนุญาตให้ครอบครองได้ตามกฎหมาย

เหตุกราดยิงสังหารหมู่ เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในออสเตรเลียนับตั้งแต่เหตุคนร้ายเพียงคนเดียวสังหารผู้คน 35 ราย ในเมืองท่องเที่ยวพอร์ตอาร์เธอร์ เมื่อปี 1996

โศกนาฏกรรมครั้งนั้นนำไปสู่การปฏิรูปกฎหมายอาวุธปืนครั้งใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องมาอย่างยาวนานว่าเป็นมาตรฐานระดับโลก

มาตรการดังกล่าวรวมถึงโครงการรับซื้อคืนอาวุธปืน, การจัดทำทะเบียนอาวุธปืนระดับชาติ และการกวาดล้างการครอบครองอาวุธกึ่งอัตโนมัติ

ที่มาข้อมูล : AFP

ที่มารูปภาพ : AFP