กรุงวอชิงตันดีซีกลายเป็นเมืองร้าง เตรียมรับมือประท้วงวันสาบานตน

กรุงวอชิงตันดีซีของสหรัฐฯ มีสภาพคล้ายกับเมืองร้าง ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิหลายหมื่นนายที่คุ้มเข้มมาตรการความปลอดภัย เพื่อเตรียมรับมือการประท้วงที่จะเกิดขึ้นในช่วงพิธีสาบานตนประธานาธิบดีของโจ ไบเดน ในวันที่ 20 มกราคมนี้

ภาพจากสำนักข่าวรอยเตอร์สแสดงให้เห็น ทหารพร้อมอาวุธครบมือ ประจำการตามจุดตรวจต่าง ๆ ขณะที่ การจราจรถูกปิดทั่วกรุง และมีการวางยานยนต์หุ้มเกราะขนาดใหญ่เพื่อปิดถนน

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ รวมถึงหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกหลายแห่ง ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการประท้วงและสถานการณ์รุนแรงในช่วงก่อนและระหว่างพิธีสาบานตน

เพราะมีข้อมูลว่ากลุ่มเหยียดเชื้อชาติที่ชูคนผิวขาวเป็นใหญ่ (White Supremacists) และกลุ่มหัวรุนแรงอื่น ๆ อาจใช้ประโยชน์จากความไม่พอใจของเหล่าผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อผลการเลือกตั้ง มาสร้างสถานการณ์

ขณะที่ นิตยสาร เดอะ นิวยอร์กเกอร์ ได้เปิดเผยภาพเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 6 มกราคมชุดใหม่ ความยาวประมาณ 12 นาที ตั้งแต่ผู้ก่อจลาจลรวมตัวหน้าอาคารรัฐสภา ก่อนจะบุกเข้าไปในอาคาร รวมถึงภาพภายในห้องประชุมวุฒิสมาชิกที่ผู้ก่อจลาจลรื้อค้นเอกสารบนโต๊ะของวุฒิสมาชิก และถ่ายรูปเอกสารต่าง ๆ ด้วย

วันนี้ มีผู้สนับสนุนทรัมป์จำนวนหนึ่งออกมาประท้วงในเมืองเอกของหลายรัฐ แต่ด้วยจำนวนที่ไม่มากนักและค่อนข้างบางตา ผู้ประท้วงบางคนพกอาวุธปืนและสวมชุดสำหรับการรบเชิงยุทธวิธีมาร่วมชุมนุมด้วย แต่ยังไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น

ปัจจุบัน รัฐบาลท้องถิ่นมากกว่า 12 รัฐทั่วประเทศได้อนุมัติการใช้กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ เพื่อคุ้มครองอาคารราชการต่าง ๆ หลัง เอฟบีไอเตือนว่า ผู้ประท้วงติดอาวุธอาจบุกเข้าโจมตีได้