กองทัพเมียนมา ลั่นจัดเลือกตั้งใหม่ หลังพ้นภาวะฉุกเฉิน 1 ปี

วันนี้( 1 ก.พ.64) กองทัพเมียนมาประกาศเตรียมจัดการเลือกตั้งใหม่ หลังสิ้นสุดการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และยืนยันว่าอำนาจการบริหารประเทศจะอยู่ในมือ “ผู้ที่ชนะ” แต่ในระหว่างนี้คณะกรรมการการเลือกตั้งของเมียนมา จะต้องได้รับการปฏิรูปและต้องเร่งเดินหน้าตรวจสอบเรื่องผลการเลือกตั้งเมื่อปลายปีที่แล้วอีกครั้ง หลังจากที่กองทัพชี้ว่ามีการโกงการเลือกตั้งอย่างรุนแรง จนทำให้พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย หรือ NLD ชนะการเลือกตั้งไปอย่างถล่มทลาย 

การแถลงดังกล่าวมีขึ้นเพียงไม่นาน หลังจากที่กองทัพได้ควบคุมตัวนาง ออง ซาน ซูจี, ประธานาธิบดี อู วิน มินท์ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรค NLD หลายคน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ในวันเดียวกับที่รัฐบาลเตรียมเปิดการประชุมสภาในวันนี้ พร้อมกับมีการตัดสัญญาณโทรทัศน์ และอินเตอร์เน็ตในนครย่างกุ้ง และนำทหารเข้าประจำการตามจุดต่างๆด้วย 

ขณะที่สถานีโทรทัศน์ช่อง เมียววดี ของกองทัพเมียนมา ได้ออกแถลงการณ์ให้อดีตนายทหาร “อู มินท์ ส่วย” รองประธานาธิบดี และอดีตมุขมนตรีนครย่างกุ้ง เป็นรักษาการณ์ประธานาธิบดี พร้อมกับมีการประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศนาน 1 ปี ภายใต้มาตรา 417 ของรัฐธรรมนูญปี 2018

อีกทั้งแถลงการณ์ของกองทัพยังระบุด้วยว่า อำนาจนิติบัญญติและตุลาการของประเทศ ได้ถูกถ่ายโอนไปยัง “ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพ” ตามมาตรา 418 ของรัฐธรรมนูญปี 2008 จนกว่าจะมีการดำเนินการใด ๆ เพื่อตรวจสอบการโกงการเลือกตั้ง ที่กองทัพกล่าวหามานับตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 แถลงการณ์ของกองทัพ ยังคงปกป้องปฏิบัติการโดยไม่ใช่คำว่า “การรัฐประหาร” แต่เพียงกล่าวหาว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลเมียนมา “ล้มเหลว” ที่จะตรวจสอบการโกงเลือกตั้ง และการมีรายชื่อซ้ำซ้อน อีกทั้งรัฐบาลยังปฏิเสธคำเรียกร้องของกองทัพ รวมถึงการเรียกร้องให้เลื่อนเปิดประชุมสภาออกไปก่อนจึงได้เลือกที่จะแทรกแซงการประชุมสภาในช่วงเช้าวันนี้

สิ่งที่ทำให้กองทัพต้องตัดสินใจดำเนินการครั้งนี้ (ตามแถลงการณ์) คือ เรื่องการโกงเลือกตั้ง ที่กองทัพระบุว่า กกต.เมียนมา ตลอดจนรัฐบาลของนางซูจี ไม่ยอมเดินหน้าตรวจสอบบัตรเลืตอกั้งมากกว่า 10 ล้านใบ ที่พบความผิดปกติ คือ ไม่มีการยืนยันชัดเจนว่าเป็นของใคร อีกทั้งกกต. ยังระบุว่า ไม่ได้มีผลมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงผลการเลือกตั้งได้

พรรค NLD ของนางซูจี กวาดที่นั่งในการเลือกตั้งไปได้ถึง 83% ซึ่งทำให้เธอสามารถเดินหน้าเปิดประชุมสภาพได้ทันที ส่วนพรรค USDP ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนของทหาร ได้ที่นั่งไปเพียง 33 ที่นั่งเท่านั้น ขณะที่กองทัพมีโควตาที่นั่งในสภา 1 ใน 4 โดยไม่ต้องเลือกตั้ง และยังได้กระทรวงกลาโหม , มหาดไทย และ พรมแดนไว้ในการบริหารดูแลด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดไทม์ไลน์ เหตุการณ์สำคัญในเมียนมาก่อน “ปฏิวัติ” อีกครั้ง!

"สหรัฐ -UN" เคลื่อนไหว หลังเกิดรัฐประหารในเมียนมา

ด่วน! กองทัพเมียนมาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลา 1 ปี

เกาะติดข่าวที่นี่