สรุปข่าว
ตลาดรถยนต์มือสองหรือรถยนต์ใช้แล้ว เป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอสำคัญต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ และเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีคาดการณ์ตัวเลขของตลาดคร่าว ๆ มูลค่าหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท และมีผู้ประกอบการทั้งรายเล็ก รายใหญ่ อยู่ทั่วประเทศ ราว ๆ 10,000 ราย ปี 2566 ที่ผ่านมา ตลาดชะลอตัว ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ สรุปดังนี้
สาเหตุแรก เกิดจากซัพพลายล้นตลาด ปีที่ผ่านมามีปริมาณรถยนต์ถูกยึดเข้าลานประมูลสูงถึง 240,000 คัน สูงสุดในรอบหลายปี คือนับตั้งแต่ปี 2561 ที่มีรถ (จากโครงการรถคันแรก) ถูกยึดเข้าลานประมูลกว่า 300,000 คัน ด้านแบงก์พาณิชย์ ก็เข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรถยนต์มือสอง ทำให้ยอดปฏิเสธสินเชื่อ สูงแตะระดับร้อยละ 40 และกลุ่มกระบะ ขึ้นไปแตะที่ร้อยละ 50 เมื่อมีซัพพลายเข้ามาในตลาดปริมาณมาก ๆ ราคารถมือสองก็ปรับลดลงแรง
ขณะเดียวกัน การเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูก รวมถึงการแข่งขันในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้ามือหนึ่ง ที่เกิดสงครามราคาขึ้น ก็ส่งผลกระทบต่อตลาดรถมือสอง ทำให้การระบายสต็อก ทำได้ยากมากขึ้นซึ่งธุรกิจรถยนต์มือสอง เป็นธุรกิจที่ซื้อมาและขายไป หากซื้อมาในราคาสูง แต่เมื่อราคารถมือสองร่วงแรง รวมถึงปัจจัยลบต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้ประกอบการในตลาดที่ไม่สามารถปรับตัวไม่ทัน ต้องเลิกหรือปิดกิจการไป ราว ๆ ไม่เกินร้อยละ 10 จากที่มีอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงทุนรายใหญ่จากต่างประเทศ แต่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ยังสามารถอยู่รอดได้ เพราะปรับตัวได้ดีกว่า
อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของ คุณภิญโญ ธนวัชรภรณ์ เจ้าของบริษัท โยรัชดา จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง กล่าวถึง กรณีแพลตฟอร์มรถยนต์มือสองจากต่างประเทศ ประกาศปิดกิจการในไทย เมื่อเดือนเมษายนว่าเกิดจากการที่ไม่เข้าใจตลาดในเมืองไทยดีพอ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเช่นกัน เป็นผู้ประกอบการจากญี่ปุ่นรายใหญ่ เข้ามาและก็อยู่ได้เพียง 2-3 ปี ก็ต้องถอนตัวออกไป
นอกจากความไม่เข้าใจตลาดแล้ว ยังมีการทุ่มเม็ดเงินโฆษณาจำนวนมาก แต่ขณะเดียวกันกลับใช้ระบบการจ้างงานทั้งหมด โดยไม่ได้เข้าไปดูแลเอง อีกทั้ง มีสต็อกรถอยู่ในปริมาณมากและระบายรถได้ช้า ส่งผลให้ธุรกิจขาดทุนต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี สถานการณ์ราคารถยนต์มือสอง ในขณะนี้ ราคาเริ่มขยับขึ้นมาแล้ว หลังร่วงต่ำสุด ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา
ด้านคุณวิชัย สุวรรณศิลา นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว กล่าวว่า ครึ่งหลังของปีนี้ ตลาดมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการฟื้นตัวตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่จะดีขึ้น อย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนสถาบันการเงิน มีสัญญาณเริ่มกลับมาปล่อยสินเชื่อมากขึ้นแล้ว หลังจากเร่งช่วยลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้และทำให้คุณภาพของสินเชื่อดีขึ้นและจากการเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ที่มีการคัดกรองมากขึ้น ก็ทำให้โอกาสการเกิดหนี้เสียน้อยลงรวมถึงแบงก์เอง ก็ให้ความสำคัญกับตลาดรถมือสองเพราะมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่ารถป้ายแดง ส่วนราคารถยนต์มือสอง เวลานี้เริ่มนิ่งแล้ว และมีทิศทางขาขึ้น แต่ยังสูงขึ้นไม่มากนัก จึงเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์มือสองในเวลานี้
ด้านคุณพัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ประธานจัดงาน "ฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024" กล่าวว่า ที่ผ่านมา ตลาดรถมือสองแค่ชะงักงันไปเพียงชั่วคราว และเชื่อว่างานที่จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 3-7 กรกฎาคมนี้ จะกระตุ้นตลาดรถยนต์ในช่วงกลางปี รวมถึงรถยนต์มือสองจะสร้างความเชื่อมั่นด้วยการรับประกันการซื้อคืน 100% หากรถมือสองที่ซื้อในงานผิดเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน 5 ข้อ คือ ไม่ไฟไหม้ ไม่จมน้ำ ไม่ตัดต่อ ไม่ชนหนัก และไม่สามารถจดทะเบียนได้ถูกต้องตามกฎหมาย
- “เซ็นทรัลพัฒนา” ทุ่ม 16,000 ล้าน รุกอสังหาฯ เชื่อเศรษฐกิจไปต่อได้ l การตลาดเงินล้าน
- ครั้งแรก "MK" ผัดสุกี้แห้งถึงโต๊ะ ปลดล็อคตำนานหม้อแดงกว่า 39 ปี l การตลาดเงินล้าน
- โตแรง! "Xiaomi" รายได้พุ่งทุบสถิติ ทำรายได้ตลาดรวม แซง BYD แล้ว l การตลาดเงินล้าน
- สงครามภาษี! ทำตลาดมือถือ เหลือโต 0.6% ต่ำสุดรอบปี l การตลาดเงินล้าน
- ดีลเขย่าวงการ! "Hailey" ขาย Rhode ในราคาพันล้านดอลลาร์ l การตลาดเงินล้าน
- สงครามราคายืดเยื้อ รถมือสอง0ไมล์ ล้นตลาดจีน l การตลาดเงินล้าน
- ทำไม "Apple" ไม่ผลิต iPhone ในสหรัฐฯ เจอศึกราคา-ศึกแรงงาน l การตลาดเงินล้าน
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand