บริษัทวิจัยระดับโลก International Data Corporation หรือ IDC ประกาศปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปี 2025 เหลือเพียงร้อยละ 0.6 จากเดิมที่คาดไว้ที่ ร้อยละ 2.6 โดยให้เหตุผลหลักจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก สงครามภาษีระหว่างประเทศ และแนวโน้ม การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง
การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตสมาร์ตโฟนทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ เช่น Apple ที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับยอดขายที่อ่อนตัวลง ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
สรุปข่าว
บริษัทวิจัยระดับโลก International Data Corporation หรือ IDC ประกาศปรับลดคาดการณ์การเติบโตของยอดจัดส่งสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปี 2025 เหลือเพียงร้อยละ 0.6 จากเดิมที่คาดไว้ที่ ร้อยละ 2.6 โดยให้เหตุผลหลักจากความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เกิดจาก สงครามภาษีระหว่างประเทศ และแนวโน้ม การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลง
การปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวสะท้อนถึงความท้าทายของผู้ผลิตสมาร์ตโฟนทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ เช่น Apple ที่ขณะนี้กำลังเผชิญกับยอดขายที่อ่อนตัวลง ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และมาตรการภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
IDC คาดการณ์ว่าการเติบโตของตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปีนี้จะยังอยู่ในระดับ เลขหลักเดียว โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ในช่วงปี 2024–2029 อยู่ที่เพียง ร้อยละ 1.4 สาเหตุหลักมาจาก 3 ปัจจัย คือ อัตราการเข้าถึงสมาร์ตโฟนที่เพิ่มสูงขึ้นจนใกล้ถึงจุดอิ่มตัว ,วงจรการเปลี่ยนเครื่องที่ยาวนานขึ้น ,การรุกเข้ามาของตลาดมือสองที่เริ่มกินส่วนแบ่งของตลาดเครื่องใหม่
แม้จะมีแรงกดดันทางการค้า แต่ตลาดหลักอย่าง สหรัฐฯ และจีน ยังคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนยอดขาย โดยจีนคาดว่าจะมีการเติบโตของตลาดในปี 2025 ที่ ร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยได้รับแรงหนุนจาก นโยบายอุดหนุนของรัฐบาล ที่เอื้อประโยชน์ให้กับแบรนด์ Android ภายในประเทศ
ในทางกลับกัน Apple คาดว่าจะเผชิญกับ การหดตัวของยอดจัดส่งถึงร้อยละ 1.9 ในปีหน้า อันเป็นผลจากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นจาก Huawei และข้อจำกัดด้านนโยบาย ที่ทำให้หลายรุ่นของ iPhone ไม่เข้าเกณฑ์ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ
อย่างไรก็ตาม Apple ยังมีความหวังในแผนการเปิดตัว iPhone 17 ที่จะมาพร้อมกับการอัปเกรดฮาร์ดแวร์ครั้งใหญ่ และการจัดโปรโมชันลดราคาช่วงเทศกาล 618 ในจีน ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคได้ในระดับหนึ่ง
เพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า Apple ได้เร่งแผนการย้ายฐานการผลิตมายัง อินเดียและเวียดนาม อย่างจริงจัง เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดการพึ่งพาการผลิตจากจีน โดยหวังว่าจะเป็นจุดแข็งในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงสูง โดยเฉพาะภายใต้บริบททางการเมืองของสหรัฐฯ ล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาแถลงว่าหาก iPhone ที่ขายในสหรัฐฯ ไม่ได้ผลิตภายในประเทศ จะต้องเผชิญกับภาษีนำเข้าสูงถึงร้อยละ 25
Nabila Popal ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยของ IDC กล่าวเตือนว่า แม้อินเดียและเวียดนามจะกลายเป็นแหล่งผลิตทางเลือกที่สำคัญ แต่หากมีการกำหนดภาษีนำเข้าเพิ่มเติมที่ระดับร้อยละ 20–30 สำหรับสมาร์ตโฟนที่ส่งเข้าสหรัฐฯ ก็อาจกลายเป็นความเสี่ยงต่อภาพรวมของตลาดในระยะใกล้ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- คาดยอดขาย"สมาร์ตโฟน"ปี 2568 โตแผ่ว
- "ธนาคารแห่งประเทศไทย"ชี้งบ 1.57 แสนล้าน ช่วย"เศรษฐกิจ"ปรับตัวได้
- “เซ็นทรัลพัฒนา” ทุ่ม 16,000 ล้าน รุกอสังหาฯ เชื่อเศรษฐกิจไปต่อได้ l การตลาดเงินล้าน
- ครั้งแรก "MK" ผัดสุกี้แห้งถึงโต๊ะ ปลดล็อคตำนานหม้อแดงกว่า 39 ปี l การตลาดเงินล้าน
- โตแรง! "Xiaomi" รายได้พุ่งทุบสถิติ ทำรายได้ตลาดรวม แซง BYD แล้ว l การตลาดเงินล้าน
- ดีลเขย่าวงการ! "Hailey" ขาย Rhode ในราคาพันล้านดอลลาร์ l การตลาดเงินล้าน
- "อินเดีย" ขึ้นเบอร์ 1 ส่งออกไอโฟนแซงหน้าจีน ยอดพุ่ง 76% รับสงครามการค้า
