สหรัฐไม่ถดถอย ดอกเบี้ยลดไม่แรง จังหวะสะสม REIT ไทย

นายไชยวัฒน์ คมโสภาพงศ์ CFP,ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กลยุทธ์การลงทุน  บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC เปิดเผยว่า ภาพความกังวลของนักลงทุนต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐลดน้อยลง หลังสหรัฐรายงานเงินเฟ้อทัวไปออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้   และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรล่าสุดในเดือนก.ค.ที่ออกมาก็เพิ่มขึ้นต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ทำให้เชื่อว่าการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในวันที่ 18 ก.ย.นี้ ดอกเบี้ยน่าจะลดลงเพียงร้อยละ 0.25 ไม่น่าจะลดที่ร้อยละ 0.50  

ดังนั้น การลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐแม้จะยังลงทุนได้ แต่ควรกระจายไปลงทุนที่นอกเหลือจากกลุ่มชิปหรืเทคโนโลยี เน้นไปที่หุ้นคุณภาพขนาดใหญ่ที่มีสภาพคล่องสูง และเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่ทดทานต่อภาวะเศรษฐกิจ รวมไปถึงหุ้นคุณภาพโลกนอกสหรัฐ โดยเฉพาะตลาดหุ้นใน Emerging Market หรือ ประเทศในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใหม่ในฝั่งเอเชียและตลาหุ้นไทย เน้นที่ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์  หรือ กองรีท ซึ่งแนะนำกองทุน  MPDIVUNIT หรือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี พร็อพเพอร์ตี้ ดิวิเดนด์ ฟันด์ ที่มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์  กองรีท และหุ้นภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีผลอบแทนในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาที่ร้อยละ 9.17 และราคารีทไทยยัง Laggard หรือ ราคายังไม่ได้ปรับขึ้นมาก 

โดยมองปัจจัยที่จะหนุนหุ้นไทยและรีทไทย ดังนี้ 

1) รัฐบาลชุดใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สนับสนุนให้การเติบโตของเศรษฐกิจ หรือ GDP ปีนี้เติบโตดีขึ้น ปี 2567 น่าจะโตที่ร้อยละ 2.6 และปี 2568 โตร้อยละ 3 

2) หุ้นไทยยัง Laggard เมื่อเทียบกับภูมิภาคอย่างตลาดหุ้นเกาหลีใต้ที่ปรับขึ้นไปก่อนแล้วจากการที่่่สัดส่วนหุ้นเทคโนโลยีสูง หรือ อินเดียที่ขึ้นมาต่อเนื่อง บวกกับตลาดหุ้นไทยในแต่ละปีมีปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 ต่อปีอยู่แล้ว

3) นอกจากนี้ไทยเรายังมีกองทุน Thai ESG รวมไปถึงกองทุนวายุภักษ์ ที่จะเริ่มลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันที่ 1 ตุลาคม 2567 นี้ด้วย 

4) เงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า ทำให้กองรีทน่าสนใจ บวกกับนักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันที่ 12 ก.ย. 2567 ปิดที่ 1,421.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.17 จุด หรือ ร้อยละ 0.44 โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิซื้อสุทธิที่ 827.23 ล้านบาท ส่งผลให้ต้นเดือนก.ย.ถึง 12 ก.ย.นี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิแล้วที 23,209.23 ล้านบาท