สรุปข่าว
นายวรุต รุ่งขำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทวายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จํากัด (YLG) เปิดเผยว่า ล่าสุดราคาทองคำในตลาดโลกจะพุ่งทะลุเป้าหมายทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 2,714 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ยังมองราคาทองคยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นต่อไป รวมทั้งทองคำในประเทศก็ปรับขึ้นเช่นกัน
โดยคาดการณ์กรอบราคาใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้ามีแนวต้านที่ระดับ 2,717 -2,735 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนแนวรับมองที่ระดับ 2,685 - 2,666 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศคาดแนวต้านที่ระดับ 42,600 - 42,850 บาท/บาททองคำ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับขึ้นได้แรงในช่วงนี้มี 2 ปัจจัยสำคัญ คือ 1) ปัจจัยในต่างประเทศ สถานการณ์ในตะวันออกกลาง จากรายงานข่าวที่ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ถูกสังหาร และมีการโจมตีขยายออกไปมากขึ้น ทั้งปาเลสไตน์ เลบานอน ซีเรีย ส่งผลให้ตลาดเลยกังวลว่าอิสราเอลอาจปรับสมดุลในตะวันออกกลางด้วยการขึ้นเป็นผู้นำในตะวันออกกลางแทนอิหร่าน แม้อิสราเอลจะยังไมโจมตีอิหร่านแต่การโจมตีขยายไปรอบๆ มากขึ้น อาจเข้าโจมตีอิหร่าน ซึ่งสหรัฐอาจควบคุมไม่ได้ ซึ่งหลังจากช่วงการก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 5 พ.ย. 2567 นี้ ไปแล้วยังไม่แน่ว่าผลการเลือกตั้งอาจทำให้นโยบายของสหรัฐเปลี่ยนไปได้ ดังนั้น ความไม่นอนเหล่านี้จึงหนุนความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำมากขึ้น
และ 2) ปัจจัยในประเทศ ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 เหลือร้อยละ 2.25 ทำให้ตลาดมีการประเมินค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางที่อ่อนค่าลง แม้เงินบาทขณะนี้จะแข็งค่า เนื่องจากกนง.ส่งสัญญาณว่าจะไม่ลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง ต้องพิจาราณาเป็นรอบๆ แต่ดอกเบี้ยก็อยู่ในทิศทางขาลง เพราะไม่ได้แข็งค่าขึ้นไปมากแล้วและมีแนวโน้มอ่อนค่าลงหรือแข็งค่าได้จำกัด เพราะตลาดมองแนวโน้มดอกเบี้ยอาจลดลงได้อีกครั้งในปลายปีนี้ ดังนั้น เงินบาทจึงอ่อนค่าลงและหนุนราคาคำในประเทศด้วย บวกกับทองคำในประเทศก็ปรับขึ้นได้ตามทิศทางในตลาดโลกด้วย โดยกลยุทธ์การลงทุนยังแนะนำให้สะสมได้ตามแนวรับ และหากแตะกรอบแนวต้านก็สามารแบ่งขายทำกำไรตามรอบได้
ขณะนี้ นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ยังมองว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลครั้งใหม่ 2,714 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ วันที่ 18 ต.ค. 2567 เวลา 12.45น. แม้ว่าวานนี้จะมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐออกมาบวกร้อยละ 0.4 สูงกว่าที่คาดไว้ที่ร้อยละ 0.3 แต่ทองคำก็ยกตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นการรักษาทิศทางเชิงบวกได้อย่างแข็งแกร่ง
แม้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในครั้งนี้ จะทะลุเป้าหมายที่ วายแอลจี ให้ไว้ที่ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์แล้ว แต่จากแรงซื้อที่แข็งแกร่ง และแรงขายในระดับจำกัด ส่งผลให้ภาพในทางเทคนิคจึงยังอยู่ในกรอบการแกว่งตัวขึ้น จึงประเมินว่าภายในสิ้นปีนี้ ราคาทองคำอาจยังไปได้ต่อสู่เป้าหมาย 2,750 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand