สรุปข่าว
นายประภัศร์พงษ์ นันทกิจพัฒนา ผู้จัดการกองทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจิตตะ เวลธ์ จำกัด เปิดเผยว่า หากประเมินทิศทางตลาดหุ้นจีน หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะขึ้นเป็นนประธานาธิบดีนั้น สถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญกับโลกการเงินและการลงทุนมาก เพราะสหรัฐเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ก็ได้มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งผลการประชุมก็ได้เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ปรับลดดอกเบี้ยลงร้อยละ 0.25 ทำให้ความเคลื่อนไหวในสัปดาห์ที่ผ่านมามีความสำคัญ
นอกจากนี้ เศรษฐกิจจีน ที่ใหญ่เป็นอัดับสองเองก็ได้มีการประชุมคณะกรรมการถาวรแห่งสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ซึ่งก็ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยการอนุมัติเพิ่มเพดานหนี้ 6 ล้านล้านหยวน เพื่อแก้ปัญหานี้แอบแฝง (Hidden Debt) ของรัฐบาลท้องถิ่น และทางรัฐมนตรีคลังของจีนก็ยังให้ความเห็นเพิ่มติมว่าจีนสามารถก่อหนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้อยู่
ทั้งนี้ จากสิ่งที่เกิดขึ้น หากเราย้อนกลับไปดูที่ดัชนีตลาดฮั่งเส็ง และดัชนี CSI 300 ในวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมาที่ทรัมป์ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ก็จะเห็น ดัชนีฮั่งเส็งผลตอบแทนติดลบอยู่ประมาณร้อยละ 2 และดัชนี CSI 300 ติดลบประมาณ ร้อยละ 0.5 เท่านั้น และหลังจากนั้นในวันที่ 7 พ.ย. ทั้ง 2 ตลาดผลตอบแทนก็ปรับขึ้นมาประมาณร้อยละ 2 และร้อยละ 3 ตามลำดับ
ดังนั้น จิตตะ เวลธ์ จึงมองว่าผลกระทบต่อตลาดหุ้นจีน จากการที่ทรัมป์กลับมาเป็นนประธานาธิบดีอีกครั้งได้สะท้อนมาที่ตลาดหุ้นจีนไปแล้ว ฉะนั้น ทิศทางตลาดหุ้นจีนจะขึ้นกับการประกาศตัวลขสำคัญทางศรษฐกิจมากกว่า โดยเฉพาะในวันที่ 15 พ.ย. นี้ ที่จีนจะประกาศตัวเลขดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales)เดือนต.ค , การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค , ราคาบ้านใหม่และราคาบ้านมือสอง ฯลฯ ซึ่งถ้าตัวลขต่างออกมาได้ดี มองว่าจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นใจให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้
ส่วนชุดมาตรการของทรัมป์ที่กระทบต่อจีนคาดว่าอุตสาหกรรมไหนจะกระทบมากๆ บ้างนั้น จากนโยบายของทรัมป์ที่หาเสียงไว้ว่าจะขึ้นภาษีกับสินค้าจีนร้อยละ 60 ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หลังการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของทรัมป์ ในวันที่ 20 ม.ค. ปี 2567 สามารถประกาศขึ้นภาษีได้เลยโดยไม่ต้องผ่านสภาคองเกรส ซึ่งปัจจุบันจีนเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมแผงโซล่าเซลล์ ,ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ,แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งการขึ้นภาษีเหล่านี้จะกระทบโดยตรง ขณะที่สหรัฐ ก็มี อีลอน มัสก์ ผู้สนับสนุนของทรัมป์ด้วย เป็นผู้เบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทสลา ( Tesla) ขณะที่ยุโรปก็ขึ้นภาษีรถ EV จีนด้วย ซึ่งจีนก็ได้เตรียมรับมือไว้แล้ว โดยทางการจีนได้แทรกแซงค่าเงินหยวนให้อ่อนค่าลง เพราะจะลดผลกระทบจากการส่งออกสินค้า ที่อาจจะส่งออกได้น้อยลงจากมาตรการกีดกัน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในตลาดหุ้นจีนยังมองบวกและคาดว่ามีโอกาสในการลงทุนระยะยาวอีกมาก จาก 4 ปัจจัย คือ 1) เทคโนโลยีภายในประเทศ การจัดระบียบของจีน มองว่าการถูกจัดระเบียบได้กระทบและผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ซึ่งรัฐบาลไสนับสนุนให้จีนก้าวข้ามไปเป็นผู้นำของโลกได้ ทั้งการสนับสนุนอุตสาหกรรมนวัตรกรรมใหม่ๆ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม เทคโนโลยีกาแพทย์ และเซมิคอนดักเตอร์
2) การเปลี่ยนแผนพัฒนาประเทศ เน้นการบริโภคจากภายในปรเทศมากขึ้น ลดการพึ่งพาต่างชาติ และให้ความสำคัญกับ New Economy หรือ เศรษฐกิจยุคใหม่ ที่จะผลักดันเศรษฐกิจเติบโตได้ในระยะยาว โดยเฉพาะกลุ่มพลังงานสะอาด
3)การสนับสนุนตลาดทุนจากรัฐบาลมากขึ้น อาทิ ลดภาษีอากรแสตมป์ จำกัดการทำธุรกรรมซอร์ต สนับสนุนกองทุนความมังคั่งแหงชาติให้ข้าไปซื้อหุ้นได้
และ 4) การกระตุ้นเศรษฐกิจจากนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ที่ออกมาต่อเนื่อง และนโยบายดอกเบี้ยยังเป็นขาลง และนโยบายการเงินของจีนก็ยังกระตุ้นได้อยู่ อาทิ รัฐมนตรีคลังของจีนยังยืนยันว่าก่อหนี้ได้ ดังนั้น ถ้าเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้ารัฐบาลก็ยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้
- "BYD" ปักหมุด "กัมพูชา" ผุดโรงงานประกอบ EV ตั้งเป้ายอดขายในประเทศ 30,000 คัน ในปี 73
- เซ่นภาษีทรัมป์! "Tesla" ขึ้นราคารถยนต์ EV ในแคนาดา l การตลาดเงินล้าน
- เมื่อเจียงซูทะยานแซงกวางตุ้งคว้าตำแหน่งแชมป์มณฑลมั่งคั่งสุด (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
- คาด “โตโยต้า” เร่งพัฒนา EV 15 รุ่นใน 2 ปี
- “Zeekr” เปิดตัวระบบขับขี่อัตโนมัติ หลบสิ่งกีดขวางได้แม้ขับไว 130 กม./ชม.
- "Pinduoduo" และ "Temu" รายได้ร่วง แม้มีส่วนลดมหาศาล l การตลาดเงินล้าน
- "BYD" เปิดตัว "Sealion 7" ปี 2025 SUV ไฟฟ้าแรง ราคาเริ่มต้น 1.14 ล้านบาท
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand