เมื่อจีนสร้างเมืองมหาวิทยาลัยนานาชาติ (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

เมื่อจีนสร้างเมืองมหาวิทยาลัยนานาชาติ (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

สรุปข่าว

การพัฒนาคนของจีนอยู่ในความสนใจและความสงสัยของชาวโลกมาอยู่เสมอ เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยเสริมที่ทำให้จีนแข็งแกร่งได้เร็วเช่นนี้ และมีโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นในเขตเสรีทางการค้า (Free Trade Zone) ล่าสุดของจีนอีกด้วย ...

โครงการนี้ไม่ได้อยู่ในแผ่นดินใหญ่ของจีน เพราะอยู่ที่ “ไห่หนาน” (Hainan) หรือที่บ้านเราเรียกว่า “ไหหลำ” เกาะรูปคล้ายผลสาลี่ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของจีน ปัจจุบัน ไห่หนานมีจำนวนประชากรราว 9 ล้านคน โดยมีความหลากหลายของผู้คนเกือบ 40 ชนกลุ่มน้อย 

ผู้คนมักสงสัยว่าเกาะไหหลำมีขนาดใหญ่ขนาดไหน ผมก็ขอบอกว่า ไห่หนานเป็นเกาะที่ใหญ่อันดับต้นๆ ของจีน โดยมีพื้นที่มากกว่าฮ่องกงราว 30 เท่า ใหญ่กว่าสิงคโปร์กว่า 45 เท่า และหากเทียบกับภูเก็ตของไทยเรา ก็ใหญ่กว่าถึงราว 60 เท่าตัว 

อันที่จริง คนไทยเชื้อสายจีนที่มีชื่อเสียงหลายตระกูลก็มีบรรพบุรุษเป็นชาวไหหลำ ขณะที่ อาหารหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าวมันไก่” ที่เลื่องชื่อ และมีผู้คนจำนวนมากนำเอาไปทำเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารในหลายประเทศจนร่ำรวยเป็นเศรษฐีก็มีพื้นเพมาจากเกาะแห่งนี้ 

ในยุคหลังการเปิดประเทศสู่โลกภายนอก ไห่หนานนับเป็นพื้นที่ที่ได้รับการประกาศเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (Special Economic Zones) ในระยะถัดมาหลังจากที่จีนประกาศจัดตั้งซ่านโถว (Shantou) เซินเจิ้น (Shenzhen) จูไห่ (Zhuhai) และเซียะเหมิน (Xiamen) เป็น SEZs นำร่องในระลอกแรก

เมื่อจีนสร้างเมืองมหาวิทยาลัยนานาชาติ (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ปัจจุบัน ไห่หนานมีราว 10 เมืองกับ 10 เขตเศรษฐกิจสำคัญ และที่คนไทยรู้จักคุ้นหูคุ้นตาหน่อยก็เห็นจะได้แก่ ไหโข่ว (Haikou) ซึ่งเป็นเมืองเอกและเมืองเศรษฐกิจหลักที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมณฑล และซานย่า (Sanya) เมืองพักผ่อนตากอากาศริมทะเลชื่อดังทางตอนใต้ของเกาะ 

อีกแห่งหนึ่งก็ได้แก่ โป๋วอ่าว (Boao) เมืองที่ใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมพิเศษ “โป๋วอ่าวฟอรั่มเพื่อเอเซีย”  (Boao Forum for Asia) ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปีที่ผู้คนจากทั่วโลกบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาร่วมงานพิเศษนี้

ไห่หนานยังมีระดับการพัฒนาที่น้อยกว่าหลายมณฑลในด้านซีกตะวันออกของจีน แต่รัฐบาลจีนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้พยายามลดความเหลื่อมล้ำ ด้วยการจัดสรรทรัพยากรและเดินหน้าพัฒนาไห่หนานมาอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา 

ยกตัวอย่างเช่น จีนลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ โครงข่ายทางด่วนและรถไฟความเร็วสูงรอบเกาะและเชื่อมหัวเมืองสำคัญเข้าด้วยกัน รวมทั้งการดึงดูดการลงทุนของต่างชาติในอุตสาหกรรมเป้าหมาย

ต่อมา การพัฒนาไห่หนานดูจะขยับเร็วขึ้น และถูกยกระดับในเชิงรุก เพื่อสนับสนุนนโยบายการพัฒนาเชิงคุณภาพสูงของประเทศ มุ่งหวังให้พื้นที่เจริญรุดหน้า และช่วยให้ผู้คนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นทัดเทียมกับพื้นที่ที่เจริญกว่าในระยะยาว 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังไห่หนานได้รับการประกาศเป็นพื้นที่นำร่องพิเศษ “Hainan Free Trade Port” ในปี 2018 ตามนโยบายเขตเสรีทางการค้าของรัฐบาลกลาง

ในการนี้ จีนได้กำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนาไห่หนานรวมทั้งสิ้น 11 ด้านที่เกี่ยวข้องกับด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ รวมทั้งบริการแห่งโลกอนาคต อาทิ การเป็นแหล่งพักตากอากาศของนักท่องเที่ยว สวรรค์ของนักช้อป ศูนย์รักษาพยาบาลและสุขภาพ และศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศ

โดยที่ไห่หนานมีพื้นฐานด้านเกษตรกรรมที่ดีอยู่เป็นทุนเดิม รัฐบาลจึงต้องการต่อยอดไปสู่ “เกษตรกรรมแห่งโลกอนาคต” อาทิ เครดิตสีเขียวและและการเทรดการปลดปล่อยคาร์บอน เพื่อตอบโจทย์ “วิสัยทัศน์ 2060” ที่ผู้นำจีนต้องการให้จีนมีความเป็นกลางด้านคาร์บอนภายในปี 2060

ในส่วนของภาคอุตสาหกรรม จีนพยายามผลักดันการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตัล (Digital Economy) และห่วงโซ่อุตสาหกรรมวัสดุใหม่จากปิโตรเคมี และยาชีวภาพ ควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมสีเขียวและนวัตกรรม อาทิ ยานยนต์พลังงานสะอาด 

เมื่อจีนสร้างเมืองมหาวิทยาลัยนานาชาติ (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ทั้งนี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การลงทุนของรัฐวิสาหกิจและเอกชนของจีน และกิจการต่างชาติในไห่หนานได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว และตามแผนพัฒนาของมณฑลไห่หนาน รัฐบาลตั้งเป้าที่จะดึงดูดกิจการไฮเทคเข้าไปลงทุนในพื้นที่จากราว 1,100 รายในปี 2021 ให้เป็นมากกว่า 3,000 รายภายในปี 2025

ในการพัฒนาเป็นศูนย์กลางการจับจ่ายใช้สอย รัฐบาลจีนได้ให้สิทธิพิเศษแก่นักท่องเที่ยวจีนในการซื้อหาสินค้าในร้านค้าปลอดอากร โดยครั้งล่าสุดเมื่อ 1 กรกฎาคม 2020 ได้เพิ่มโควต้าวงเงินจาก 30,000 หยวนเป็น 100,000 หยวนต่อปี ซึ่งทำให้ภาคการบริโภคภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนา “เศรษฐกิจวงจรคู่” (Dual Circulation Economy)

นอกเหนือจากงานประชุมโป๋วอ่าวฟอรั่มฯ ดังกล่าว จีนยังกำหนดให้โป๋วอ่าวเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพนานาชาติ (International Medical Tourism Pilot Zone) ซึ่งต่อไปมหาเศรษฐี นักธุรกิจ และศิลปิน ดารา และคนที่มีชื่อเสียงจากทั่วโลกสามารถมาใช้ชีวิต ประกอบอาชีพ และบริหารงานทางไกลควบคู่ไปกับการพักผ่อนและดูแลสุขภาพในพื้นที่ได้อย่างสบาย

ในปี 2021 รัฐบาลจีนลงทุนขยายท่าเรือหยางผู่ (Yangpu Port) ซึ่งตั้งอยู่ด้านซีกตะวันตกเฉียงเหนือของไห่หนาน เพื่อยกระดับให้เป็นศูนย์กลางด้านลอจิสติกส์และการขนถ่ายสินค้าคอนเทนเนอร์ระหว่างประเทศอีกแห่งหนึ่งทางตอนใต้ของจีน 

ตามแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 14 (2021-2025) ท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดของไห่หนานแห่งนี้จะถูกใช้เพื่อเชื่อมโยงกับท่าเรือในพื้นที่เกรตเตอร์เบย์ (Greater Bay Area) และพื้นที่หลังท่าด้านซีกตะวันตกของจีน แถมยังสอดคล้องกับนโยบาย “ข้อริเริ่มหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (BRI) อย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อจีนสร้างเมืองมหาวิทยาลัยนานาชาติ (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร

ไห่หนานยังจะเดินหน้าขยายโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ อาทิ เขตพัฒนาเศรษฐกิจหยางผู่ที่อยู่ติดกับท่าเรือหยางผู่ และเขตพัฒนานวัตกรรมชั้นแนวหน้าเจี่ยงตง (Jiangdong) ที่นครไหโข่ว เพื่อรองรับการลงทุนจากต่างชาติ และขยายโอกาสทางธุรกิจ เทคโนโลยี และการศึกษา

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังยกระดับงานแสดงสินค้าระดับมณฑลให้เป็นระดับชาติ ภายใต้ชื่อ “China International Consumer Products Expo” โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 ณ ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ที่ตั้งอยู่ริมทะเลในนครไหโคว่ เพื่อให้เป็นเวทีการพัฒนาความร่วมมือด้านการค้าที่สำคัญ และจากนี้ไป “Hainan Expo” จะจัดเป็นประจำในช่วงวันที่ 12-16 เมษายนของทุกปี 

งานนี้เรียกว่า “ยิงนกหลายตัวด้วยกระสุนนัดเดียว” เพราะเงื่อนเวลาดังกล่าวจะเปิดโอกาสให้รัฐบาลจีนสามารถเชิญนักธุรกิจจีนและต่างชาติ รวมทั้งคนที่มีชื่อเสียง ใช้เวลาในไห่หนานยาวนานและคุ้มค่ามากขึ้นเพื่อไปร่วมงาน “Hainan Expo” งานประชุมโป๋วอ่าวฟอรั่มฯ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นได้ในคราวเดียว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในอนาคต ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการไปขยายโอกาสทางธุรกิจในตลาดจีน อาจต้องใช้ช่วงเวลาเทศกาลสงกรานต์ของไทยที่ไห่หนานแทนก็เป็นได้

อีกวิสัยทัศน์สำคัญของการพัฒนาไห่หนานที่ผมอยากจะหยิบยกมาไฮไลต์ก็คือ การเป็น “ศูนย์กลางด้านการศึกษาระหว่างประเทศ” 

รัฐบาลจีนมุ่งหวังให้วิสัยทัศน์ดังกล่าวเกิดเป็นรูปธรรมภายในปี 2050 โดยเดินหน้าสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวข้อง และอัดมาตรการส่งเสริมการลงทุนมากมาย สิ่งนี้สะท้อนว่า ไห่หนานจะเต็มไปด้วยสีสันของการพัฒนาที่น่าสนใจยิ่งในช่วง 3 ทศวรรษข้างหน้า

แต่วันนี้พื้นที่ของผมหมดซะแล้ว คราวหน้าเราจะมาไล่เรียงเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองมหาวิทยาลัยนวัตกรรมด้านการศึกษานานาชาตินี้กันครับ ...



ภาพจาก AFP

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

ดรไพจิตร วิบูลย์ธนสาร
รองประธานหอการค้าไทยในจีน
หอการค้าไทยในจีน
เขตเสรีทางการค้า
จีน
ไห่หนาน
ไหหลำ
free trade zone