

สรุปข่าว
จีนสร้างต้นแบบการท่องเที่ยวยุคใหม่ผ่านงานเทศกาลน้ำแข็ง (ตอน 1) โดย ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายท่านอาจได้รับทราบข่าวดีที่คณะผู้แทนจากสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งของไทยได้รับรางวัลชนะเลิศการแกะสลักน้ำแข็งในเทศกาลน้ำแข็งที่นครฮาร์บินมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณ “หงอนไก่” ด้านซีกตะวันออกเฉียงเหนือ “ตงเป่ย” ของจีน
อันที่จริง งานเทศกาลน้ำแข็งฮาร์บิน (Harbin Ice Festival) จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1985 หรือเกือบ 40 ปีก่อน และจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในเวลาต่อมา แต่ก็หายหน้าหายตาไปในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา
แต่ที่น่าสนใจมากกว่าก็คือ ความสำเร็จในการจัดงานฯ ในปีนี้ที่สามารถทำสถิติผู้เข้าเยี่ยมชมงานมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และกำลังเป็นต้นแบบของการท่องเที่ยวยุคใหม่ของจีน ...
ภาพจาก reuters
“เทศกาลน้ำแข็งฮาร์บินปี 2024” คือชื่ออันหนาวเหน็บและตื่นเต้นสุดๆ ของจีนที่ผมกำลังพูดถึง ซึ่งเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา และจะลากยาวเกือบ 2 เดือนไปจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์
พิธีเปิดในปีนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมการแสดงมากมายที่ตระการตาเพื่อหวังดึงดูดนักท่องเที่ยว อาทิ การแสดงทางวัฒนธรรมการแสดงสเก็ตน้ำแข็ง คอนเสิร์ต สวนสนุกและการแสดงดอกไม้ไฟ นับเป็นการผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่ง ความอ่อนช้อย และความวิจิตรบรรจง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประติมากรรมน้ำแข็ง ไว้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ดี เท่าที่สอบถามจากคนท้องถิ่น ก็ได้รับทราบว่า เราสามารถไปแอบส่องดูประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะอันงดงามของ “เมืองน้ำแข็ง” (Ice City) ได้ตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2023
ภาพจาก reuters
งานในปีนี้ถูกจัดเตรียมล่วงหน้าเป็นอย่างดียิ่งเพื่อหวังชดเชย “3 ปีที่หายไป” ในช่วงโควิด ร้านอาหาร โรงแรมที่พัก แหล่งช้อปปิ้ง บริการขนส่งสาธารณะ สนามบิน และอื่นๆ ภายในเมืองได้รับการปรับปรุงทั้งระบบ
เมื่อเดินทางไปถึงฮาร์บิน นักท่องเที่ยวจะได้รับการต้อนรับด้วยการแสดงที่สนามบิน รัฐบาลยังจัดเตรียมห้องแต่งตัวชั่วคราวเรียงรายมากมายเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่อบอุ่นขึ้น
แต่ด้วยความเร่งรีบแบบไม่ทันเตรียมตัวดี ก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างแดนจำนวนมากเดินทางไปถึงฮาร์บินโดยไม่มีเสื้อกันหนาวและอุปกรณ์สร้างความอบอุ่นที่เหมาะสม กลายเป็นว่าสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อไปถึงฮาร์บินกลายเป็น “การช้อปปิ้ง”
ภาพจาก reuters
ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมาก เป็นการสนับสนุนนโยบายกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศไปในตัว
แม้กระทั่งอาหารท้องถิ่นพิเศษ อาทิ ลูกแพรแช่แข็ง ที่ผมเองก็เคยมีโอกาสไปทดลองแทะจนฟันแตกมาแล้ว ถูกนำเสนอในหน้าตาที่หลากหลาย ขณะที่พื้นที่สำหรับกิจกรรมฤดูหนาว อาทิ การเล่นสกี การตกปลา และอื่นๆ ก็ถูกปรับโฉมเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนและต่างชาติ
นอกจากนี้ ผู้จัดงานยังกระจายจุดท่องเที่ยวสุดยะเยือกในหลายแห่งทั่วฮาร์บินโดยที่โดดเด่นที่สุดก็คือ Ice and Snow World (โลกน้ำแข็งและหิมะ) Sun Island (เกาะสุริยัน) และ Zhaolin Park (สวนสาธารณะจ้าวหลิน)
โลกน้ําแข็งและหิมะถือเป็นอุทยานแสดงประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่เป็นไฮไลท์ของเทศกาลนี้ ครอบคลุมพื้นที่หลายแสนตารางเมตร ซึ่งผมไปเยือนงานนี้คราวใดก็ไม่อาจเดินได้ทั่วแม้แต่ครั้งเดียว
ในช่วงกลางวัน ประติมากรรมน้ำแข็งขนาดมหึมาที่ประกอบขึ้นจากแท่งน้ำแข็งที่ตัดและขนส่งมาจากแม่น้ำซงหัวที่เยือกแข็งในบริเวณใกล้เคียงจะสะท้อนกับแสงแดดจนดูโปร่งใสราวกับคริสตัล
ภาพจาก reuters
การแกะสลักในแต่ละส่วนก็มีความประณีตและส่องสว่างอย่างเจิดจ้าด้วยแสงไฟหลากสีสัน อาทิ ดวงจันทร์เทียม และปราสาทสูงที่ตั้งตระหง่านราวอาคารสถาปัตยกรรมยุโรป ไปจนถึงแบบจําลองของสถานที่สําคัญที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ถูกออกแบบและแกะสลักอย่างละเอียดอ่อนและน่าประทับใจยิ่ง
ขณะเดียวกัน ท่านอาจทดลองร่วมกิจกรรมพิเศษมากมาย อาทิ การปีนภูเขาน้ำแข็ง เล่นสเก็ต ลองสกีเก้าอี้ไต่เขาวงกตน้ำแข็ง และปั่นจักรยานหิมะ
ส่วนในยามค่ำคืน พื้นที่ในบริเวณนี้จะเต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากโครงสร้างน้ำแข็งที่ตกแต่งด้วยแสงไฟหลากสี พร้อมเอฟเฟกต์ที่สุดตระการตารวมยังมีการแสดงระบำและกายกรรมบนน้ำแข็งให้ชมกันอีกด้วย
ทั้งนี้ หนึ่งในไฮไลต์ที่ผู้คนไปต่อคิวและยืนรอคณะก็คือ สไลเดอร์น้ำแข็งหลากหลายรูปแบบ บางอันมีระยะทางยาวถึง300 เมตรก็มี แต่ผมเตือนไว้ก่อนว่า อย่าลงเล่นโดยไม่ใช้แผ่นพลาสติกรอง เพราะผมเองเคยทดลองมาแล้ว ผลก็คือ ทันทีที่ลงจากสไลเดอร์ ท่านจะต้องเดิน “ก้นเย็นเป็นน้ำแข็ง” ตลอดคืนเลยทีเดียว
อีกหนึ่งในไฮไลต์ใหม่ก็ได้แก่ “ชิงช้าสวรรค์เกล็ดหิมะ” ที่สูงถึง 120 เมตร พร้อมด้วยกระเช้าโดยสาร 48 กระเช้า พร้อมด้วยเกล็ดหิมะ 6 แฉกขนาดใหญ่ที่ประดับอ/ยู่กลางวงเป็นจุดเด่นยามค่ำคืนก็จะเปิดไฟเป็นสีรุ้งที่งดงามยิ่ง
แต่ผมขอเตือนว่าท่านต้องใส่เสื้อกันหนาวและมีอุปกรณ์ให้ความอบอุ่นที่พร้อมหน่อย เพราะแต่ละรอบกินเวลานานนับสิบนาที มิฉะนั้นอารมณ์ “ฟิน” จะเปลี่ยนเป็น “ฟุบ” ได้
ภาพจาก reuters
พื้นที่ส่วนนี้เปิดตั้งแต่ 10.00–22.00 น. แต่สำหรับท่านผู้อ่านที่ไม่ชอบเดินแบบ “ปากสั่น” เป็นเวลานาน ผมก็ขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมโลกน้ำแข็งและหิมะประมาณ 15.00 น.
เพราะในช่วงเวลานี้ของปี ฮาร์บินจะเริ่มมืดตอน 16.00 น. ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ท่านสามารถชื่นชมประติมากรรมน้ําแข็งที่โปร่งใสและส่องแสงในเวลากลางวัน ตามด้วยสีสันอันตระการตาและเอฟเฟกต์แสงสีในยามค่ำคืน เดินชมและเก็บภาพประติมากรรมสัก 2-3 ชั่วโมงก็สามารถหนีไปหา “อาหารค่ำ” และ “ไออุ่น” ได้แล้ว
เกาะสุริยัน ทําหน้าที่เป็นเวทีจัดแสดงประติมากรรมหิมะขนาดใหญ่และประณีตยิ่งที่สร้างโดยศิลปินจากทั่วโลก จนบางครี้งได้ชื่อว่า “International Snow Sculpture Art Expo” ท่านสามารถเดินชมประติมากรรมน้ำแข็งและหิมะขนาดยักษ์ที่บางแห่งมีความสูงมากกว่า 10 เมตร
สำหรับคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน ก็อาจสังเกตเห็นงานศิลปะมากมาย อาทิ เทพนิยาย สัตว์และสิ่งมีชีวิตอื่นในตํานาน และฉากหลังทางด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ โดยสามารถเข้าชมได้ระหว่างเวลา 08.00–17.00น. ของแต่ละวัน
อีกแห่งหนึ่งได้แก่ สวนสาธารณะจ้าวหลินซึ่งเป็นจุดแสดงประติมากรรมน้ำแข็งประดับไฟ (Harbin Ice Lantern Show)
ภาพจาก reuters
จุดนี้เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 09.00–21.00 น. แต่ผมแนะนำให้ไปในช่วงหลังพระอาทิตย์ตก เพราะจะได้เห็นความงดงามของประติมากรรมน้ำแข็งที่ประดับไฟส่องสว่างอยู่ภายในจำนวนกว่า 300 ชิ้น
กำลังเพลินเลย แต่วันนี้พื้นที่ของผมหมดแล้ว ตอนหน้าผมจะพาไปส่องสุดยอดแห่งการบูรณาการด้านการท่องเที่ยวของรัฐบาลกลางและท้องถิ่น และการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนที่เราอาจได้เรียนลัดมาใช้ที่บ้านเรากันต่อไปครับ ...
ภาพจาก reuters
ภาพจาก AFP / reuters
ที่มาข้อมูล : -