
สรุปข่าว
วันนี้ (27 พ.ย.64) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ภญ.ศิริกุล เมธีวีรังสรรค์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นตัวแทนองค์การเภสัชกรรมรับมอบวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) จากบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำนวน 1,382,500 โดส
ก่อนหน้านี้ บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ประเทศไทย ได้ส่งมอบวัคซีนโมเดอร์นาล็อตแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 560,200 โดส รวมวัคซีนที่นำเข้ามาแล้ว จำนวน 1,942,700 โดส ในส่วนวัคซีนที่เหลือคาดว่าจะเข้ามาในเดือนธันวาคม 2564 และในไตรมาสแรกของปี 2565 คือในช่วงมกราคมถึงมีนาคม

ภญ.ศิริกุล กล่าวว่า วัคซีนโมเดอร์นา เมื่อผ่านศุลกากรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จะถูกขนส่งไปยังคลังสำรอง บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ก่อนจะมีการกระจายไปโรงพยาบาลเอกชนตามแผน
สำหรับวัคซีนโมเดอร์นาล็อตดังกล่าว เป็นวัคซีนแหล่งผลิตจากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางบริษัทได้ยื่นขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนการนำเข้าแล้ว

ทั้งนี้ ผู้รับวัคซีนโมเดอร์นา จะมีประกันกรณีผลข้างเคียงหลังการรับวัคซีนให้ทุกราย กรณีมีอาการโคม่า หรือเสียชีวิต จะได้รับชดเชย 1,000,000 บาท กรณีเกิดทุพพลภาพถาวร ชดเชย 500,000 บาท และกรณีมีอาการจนต้องเข้ารับการรักษาเป็นคนไข้ใน (แอดมิท) ของโรงพยาบาล ชดเชยค่ารักษาพยาบาล 100,000 บาท

ด้าน นพ.เฉลิม หาญพาณิชย์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ระบุถึงการจัดสรรวัคซีนโมเดอร์นาว่า จะถูกจัดสรรไปตามสัดส่วนการจองของโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่ง หลังจากนี้ได้มีการหารือกับทางบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด ว่าจะมีการส่งวัคซีนทุกเดือนจนครบจำนวนสั่งซื้อ 8.7 ล้านโดสในเดือนมีนาคม
ส่วนกรณีการขอคืนเงินจองวัคซีนโมเดอร์นา นพ.เฉลิม ย้ำว่า ตามนโยบายผู้สั่งซื้อสามารถเลื่อนวันฉีด หรือโอนสิทธิ์ให้บุคคลอื่นได้ ซึ่งมีการระบุไว้ในสัญญาตอนสั่งซื้อแล้ว

ส่วนกรณีที่วัคซีนโมเดอร์นามีความล่าช้าในการส่งมอบ นพ.เฉลิม ยืนยันว่า กรอบการสั่งซื้อวัคซีนโมเดอร์นาเป็นไปตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ตั้งแต่แรก
ขณะที่ ภญ.สุนัยนา กิจเกษตรไพศาล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซิลลิค ฟาร์มา ระบุว่า หลังจากนี้ทางบริษัทจะส่งวัคซีนให้ทางองค์การเภสัชกรรมตามแผนขณะเดียวกัน ซิลลิค ฟาร์มา ได้ยื่นขึ้นทะเบียนใช้วัคซีนโมเดอร์นาในเด็กอายุ 12-17 ปี อย.ในไทยแล้ว ซึ่งปริมาณการใช้วัคซีนในเด็ก ปริมาณจะเท่ากับผู้ใหญ่
นอกจากนี้ ผู้ผลิตวัคซีนโมเดอร์นา ได้เตรียมพัฒนาวัคซีนเพื่อรองรับสายพันธุ์โอไมครอนโดยเฉพาะ และสายพันธุ์อื่นในอนาคต ซึ่งอยู่ระหว่างการทดสอบปริมาณวัคซีนว่าจะอยู่ที่ขนาดเท่าใด


ภาพจาก ทีมข่าว TNN ช่อง 16
- โควิด NB.1.8.1 เป็นสายพันธุ์หลักในไทยแล้ว มีแนวโน้มมากขึ้น
- วัคซีนโควิด-19 ไม่ถูกถอดจากรายชื่อวัคซีนแนะนำในสหรัฐฯ
- โควิด-19 ระบาดหลายภูมิภาค! "สายพันธุ์ NB.1.8.1" แพร่กระจายเร็ว อย่าชะล่าใจ
- สถานการณ์โควิดป่วยสะสมพุ่ง 2.5 แสนราย สายพันธุ์ NB.1.8.1 ระบาดแรง
- กรมวิทย์ฯ คาดโควิดสายพันธุ์ NB.1.8.1 กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในประเทศไทยและทั่วโลก
- “หมอยง” เปิดข้อมูลโควิดสายพันธุ์ล่าสุดที่พบในกทม. ติดต่อง่าย แพร่กระจายเร็ว
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand
