สปสช. แจงข้อมูล รพ.เอกชนในระบบบัตรทอง 290 แห่ง

สปสช. แจงข้อมูล รพ.เอกชนในระบบบัตรทอง 290 แห่ง

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีข้อมูลคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับจำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมให้บริการในระบบ บัตรทอง 30 บาท โดยย้ำว่า ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้งหมด 290 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นโรงพยาบาลที่ทำหน้าที่ ปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อ หรือเป็นโรงพยาบาลประจำตัวของผู้ป่วย จำนวน 22 แห่ง

สรุปข่าว

สปสช. ชี้แจงข้อมูลโรงพยาบาลเอกชนในระบบบัตรทอง 290 แห่ง โดย 22 แห่งเป็นโรงพยาบาลประจำตัวผู้ป่วย พร้อมย้ำข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ.

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีข้อมูลคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับจำนวนโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมให้บริการในระบบ บัตรทอง 30 บาท โดยย้ำว่า ปัจจุบันมีโรงพยาบาลเอกชนขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติทั้งหมด 290 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นโรงพยาบาลที่ทำหน้าที่ ปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อ หรือเป็นโรงพยาบาลประจำตัวของผู้ป่วย จำนวน 22 แห่ง

ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. และโฆษกสำนักงานฯ ระบุว่า ข้อมูลที่ปรากฏก่อนหน้านี้ซึ่งระบุว่าเหลือเพียง 10 แห่งนั้น ไม่ถูกต้อง โดยในความเป็นจริงยังมีโรงพยาบาลเอกชนจำนวนมากที่ยังร่วมให้บริการในระบบ และมีสถานพยาบาลเอกชนที่ขึ้นทะเบียนในโครงการ นวัตกรรม 30 บาทรักษาทุกที่ อีก 13,493 แห่ง ได้แก่

  • คลินิกเวชกรรม 887 แห่ง
  • คลินิกทันตกรรม 1,913 แห่ง
  • ร้านยา 3,900 แห่ง
  • คลินิกการพยาบาล 5,489 แห่ง
  • คลินิกแพทย์แผนไทย 710 แห่ง
  • คลินิกกายภาพบำบัด 370 แห่ง
  • คลินิกเทคนิคการแพทย์ 224 แห่ง
  • คลินิกชุมชนอบอุ่นในกรุงเทพฯ 227 แห่ง

ทพ.อรรถพรกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนว่า ยังมีสถานพยาบาลเอกชนจำนวนมากที่ร่วมให้บริการ สปสช. และขอขอบคุณความร่วมมือจากหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ สปสช. ยืนยันว่าเป้าหมายในการบริหารงานคือการดูแลประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็น และเมื่อเกิดปัญหาต่อหน่วยบริการ สปสช. อยู่ระหว่างปรับการดำเนินการร่วมกับ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแก้ไขอย่างเร่งด่วน พร้อมขอความร่วมมือเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องให้สังคมรับทราบข้อเท็จจริง

ที่มาข้อมูล : สปสช.

ที่มารูปภาพ : สปสช.