จับแก๊งหลอกขายอุปกรณ์ประหยัดไฟ ทำมา 2 ปี ขายได้แสนเครื่อง [มีคลิป]

วันนี้ (23 ส.ค.62) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจยึดจับกุมสินค้าซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นำมาแอบอ้างหลอกลวงประชาชนว่าช่วยให้ประหยัดไฟฟ้าภายในบ้านลงได้ ซึ่งทั้งหมดเป็นของกลางที่ตำรวจขยายผลจากการ บุกจับแก๊งมิจฉาชีพชาวไทย ที่มีผู้ร่วมขบวนการอยู่เบื้องหลังเป็นชาวเวียดนาม ซึ่งนำเข้าอุปกรณ์ที่แอบอ้างว่าช่วยให้ประหยัดไฟฟ้ามานานกว่า 2 ปี มีผู้หลงเชื่อสั่งซื้อไปใช้งานไม่ต่ำกว่า 100,000 เครื่อง มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ. พร้อมด้วยตำรวจ ปอท. ตัวแทนจาก สคบ. และการไฟฟ้านครหลวง ร่วมกันแถลงผลตรวจยึดจับกุมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ที่ประกอบแล้วเสร็จ และชิ้นส่วนที่รอการประกอบ สมุดบัญชีซื้อขาย และอุปกรณ์จัดส่งวัสดุ หลังสืบสวนขยายผลเข้าตรวจค้นจับกุมแก๊งมิจฉาชีพชาวไทย 4 คน ที่หลอกลวงจำหน่ายอุปกรณ์ประหยัดไฟฟ้า โดยโพสต์ขายผ่านทางเฟซบุ๊ก ภายในบ้านพัก 2 หลัง ซอยเคหะร่มเกล้า 31 เขตลาดกระบัง ขณะกำลังบรรจุสินค้าส่งขายให้กับลูกค้า

จากการตรวจค้นบ้านกลังดังกล่าว ตำรวจยังขยายผลไปตรวจค้นสถานที่เก็บสินค้า ซึ่งเป็นบ้านพักในตำบลพานทอง อำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ยึดอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ประกอบเสร็จแล้วเตรียมส่งจำหน่าย 64 ชิ้น และชิ้นส่วนที่รอการประกอบ 228 ชิ้น เอกสารที่เกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าอีกจำนวนหนึ่ง

โดยพฤติการณ์หลอกลวงของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้วิธีการโฆษณา ผ่านทางเพจ Expert Electric และ เพจอุปกรณ์ช่วยประหยัดไฟฟ้า พาวเวอร์ แฟคเตอร์ เซเวอร์ ของแท้ 100% อ้างว่าสินค้าชิ้นนี้ เมื่อนำไปเสียบกับปลั๊กไฟในบ้าน จะสามารถลดค่าไฟได้ โดยในเพจยังนำภาพของการไฟฟ้านครหลวง เช่น ภาพการอบรมเจ้าหน้าที่ ภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า รวมถึงภาพสื่อมวลชน ไปแอบอ้างว่าเป็นสินค้าที่ผ่านการรับรอง สามารถใช้งานได้จริง

จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยทั้ง 4 คน มีนายทุนเป็นชาวเวียดนาม 2 คน ว่าจ้างให้ทำหน้าที่รับออเดอร์ จัดส่งสินค้าขายให้กับลูกค้าที่สั่งซื้อผ่านทางเฟซบุ๊ก เปิดขายมานานกว่า 2 ปี แล้ว ในราคาเครื่องละ 999 บาท ซึ่งแต่ละวันจะมีผู้สั่งซื้อไม่น้อยกว่าวันละ 100 คน คาดว่ามีการขายให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 100,000 เครื่อง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท

ขณะที่ตัวแทนการไฟฟ้านครหลวง ยืนยันว่า สินค้าดังกล่าวได้ส่งให้แผนกวิจัยตรวจสอบแล้ว พบว่าภายในเป็นเพียงหม้อแปลงกระแสไฟฟ้า และหลอดไฟแอลอีดี ซึ่งเมื่อนำไปใช้งานอุปกรณ์เพียงทำให้หลอดไฟแอลอีดีสว่างขึ้น ไม่ได้ช่วยลดการใช้ไฟฟ้าตามที่มีการโฆษณาแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาการไฟฟ้าก็เคยประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อเป็นระยะๆ แต่ไม่เคยเข้าแจ้งความ กระทั่งในระยะหลังนี้มีการนำภาพของการไฟฟ้านครหลวงไปแอบอ้าง เข้าข่ายเป็นความผิดกฎหมายชัดเจน จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม การไฟฟ้านครหลวง ระบุว่า อุปกรณ์หรือเครื่องที่ช่วยให้ประหยัดไปมีจริง แต่จะใช้ในเฉพาะกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น และอุปกรณ์ของกลางที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ลดไฟฟ้าในย้านได้แต่อย่างใด แต่กลับจะส่งผลให้เกิดความเสียหายภายในบ้านได้ เพราะเมื่อเสียบไว้นานๆ จะทำให้เครื่องร้อนและเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้