
สรุปข่าว
วันนี้ (29 ส.ค.62) พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการพัฒนาระบบใบสั่งจราจรออนไลน์ครบวงจร หรือระบบ PTM ให้สามารถรับชำระค่าปรับด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ พร้อมรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก โดยหลังจากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยในการพัฒนาระบบและรับชำระค่าปรับจราจรเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน
และในเฟสที่ 2 ได้เริ่มพัฒนาระบบให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 กันยายนนี้ และประชาชนที่ทำผิดกฎจราจรจะไม่ถูกเรียกเก็บใบขับขี่อีกแล้ว แต่ยังยืนยันว่าต้องพกใบขับขี่ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อแสดงกับเจ้าหน้าที่หากเรียกตรวจ หรือใช้แอพลิเคชั่นของกรมการขนส่งทางบกแสดงแทน แต่ไม่สามารถใช้รูปถ่ายใบขับขี่แสดงได้
โดยหากถูกเรียกตรวจแล้วมีความผิดจราจร ตำรวจก็จะออกใบสั่งมาให้เพื่อนำไปจ่ายค่าปรับจราจรภายใน 15 วัน หากยังไม่จ่ายก็จะถูกตัดแต้ม และหากครบ 12 แต้มก็จะมีการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ รวมทั้งโทษปรับก็จะสูงขึ้น และไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้ ซึ่งนอกจากใบสั่งที่ออกโดยเจ้าพนักงานแล้ว ยังรวมถึงใบสั่งแบบกล้องตรวจจับความเร็วด้วย
ส่วนการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับกรมการขนส่งทางบก จะเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และจะทำให้ข้อมูลผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบได้หากทำผิดกฎจราจร และยังสามารถตรวจสอบข้อมูลค่าปรับจราจรย้อนหลัง 90 วัน ในระบบ PTM
พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ระบบนี้จะเป็นการบังคับใช้กฎหมายจราจรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องชำระค่าปรับจราจรผ่านทางธนาคารกรุงไทย ทั้งเครื่องเอทีเอ็ม และแอปพลิเคชั่นกรุงไทย NEXT และตัวแทนรับชำระรวมทั้งเตรียมขยายไปยังร้านสะดวกซื้อด้วย
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand