
สรุปข่าว
หลังจากเกิดเหตุน้ำมันดิบรั่วลงทะเลที่จังหวัดระยอง เกิดผลกระทบตามมามากมาย ทั้งระบบนิเวศทางทะเลบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก ผลกระทบด้านการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาใหญ่ของโลกใต้น้ำ นั่นก็คือ ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว ซึ่งจะส่งผลต่อแหล่งอาหารสำคัญของหลายล้านชีวิตใต้ท้องทะเล ระบบนิเวศท้องทะเลจะเสียสมดุล และแนวปะการังที่เคยมีสีสันสวยงามก็จะซีดและจางลง ไม่สวยอีกต่อไป โดยปกติเนื้อเยื่อของปะการังไม่ได้มีสีสันสวยงาม เป็นเพียงเนื้อเยื่อใส ๆ เท่านั้น ส่วนที่เห็นเป็นสีสันสวยๆ ไม่ว่าจะเป็นสีแดง สีส้ม สีเขียว มาจากสาหร่ายซูแซนเทลลี โดยสาหร่ายตัวนี้จะไปเกาะที่ปะการัง แล้วทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสง ให้ธาตุอาหารแก่ปะการังในการเจริญเติบโต แต่พอมีปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเป็น ภาวะโลกร้อน อุณหภูมิน้ำทะเลสูงเกินไป มีน้ำจืดไหลลงมาทำให้ความเค็มลดลง หรือมลพิษที่เกิดจากมนุษย์ ทั้งน้ำเสีย การใช้ครีมกันแดด การทิ้งขยะตามแนวชายหาด รวมถึงน้ำมันดิบรั่วลงทะเล ก็จะไปทำให้ให้สาหร่ายซูแซนเทลลีหนีออกมาจากเนื้อเยื่อของปะการังเพื่อความอยู่รอดนั่นเอง พอไม่มีสาหร่าย ปะการังก็จะมีสีซีดจางลง และขาวในที่สุด รวมถึงจะอ่อนแอลงด้วย แต่ปะการังที่เกิดการฟอกขาวสามารถกลับคืนสู่สภาพปกติได้ หากสาหร่ายซูแซนเทลลีกลับเข้าสู่ตัวปะการังอีกครั้ง ซึ่งก็ต้องใช้เวลาหลายปีในการฟื้นฟู ซึ่งขณะนี้มหาสมุทรทั่วโลกต่างก็เผชิญปัญหาปะการังฟอกขาว จากทั้งภาวะโลกร้อน และมลพิษต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้น มีความกังวลว่า ในอนาคต เราอาจไม่เหลือแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และมีสีสันสวยงามอีกต่อไป ถ้าหากมนุษย์ยังคงรบกวนโลกใต้น้ำอยู่แบบนี้
- "วันอนุรักษ์แนวปะการังโลก" ตรงกับ 1 มิถุนายน ของทุกปี
- สถาปนิกเมืองไมอามีสุดเจ๋ง คิดกระเบื้องปะการังสามมิติ ปกป้องชายฝั่ง ลดคลื่นกัดเซาะ
- แนวปะการัง 84% ทั่วโลก ฟอกขาวแรงสุดเป็นประวัติการณ์
- ปะการังฟอกขาวทั่วโลก กระทบ 84% รุนแรงที่สุดเท่าที่เคยมีมา ! ไทยก็โดนด้วย
- กฏใหม่การ "ดำน้ำลึก" ห้ามถ่ายรูปใต้น้ำ ยกเว้นผู้ผ่านอบรมตามกำหนด
- ชมปะการังออกไข่ที่หมู่เกาะอ่างทอง
- ภาพหาดูยาก “ปะการังปล่อยไข่” อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand