เพาะเห็ดนางรมจาก "กากกาแฟ" โปรตีนสูง-แคลอรี่ต่ำ แถมลดโลกร้อน

เพาะเห็ดนางรมจาก "กากกาแฟ" โปรตีนสูง-แคลอรี่ต่ำ แถมลดโลกร้อน

สรุปข่าว

ปัจจุบันนี้การบริโภคกาแฟของประชากรทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉลี่ยทั่วโลกมีการบริโภคกาแฟถึงประมาณ 2 พันล้านถ้วยต่อวัน ทำให้มีขยะจากกากกาแฟเกิดขึ้นปีละกว่า 2 พันตัน แน่นอนว่าขยะเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งตัวการในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลก จากปัญหานี้ทำให้บริษัทแห่งหนึ่งในเบลเยี่ยมเกิดแนวคิดในการพยายามใช้ประโยชน์จากกากกาแฟซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้ง ด้วยการหันมาเพาะเห็ดนางรมจากกากกาแฟ “จูเลียน จากเก้” ผู้บริหารของบริษัทแห่งนี้บอกว่าเห็ดนางรมที่เขาปลูกนั้น เติบโตได้จากกากกาแฟเป็นหลัก โดยทุกๆเดือนเขาจะรวบรวมกากกาแฟได้ประมาณ 5 ตันครึ่งจากร้านกาแฟทั่วประเทศ แล้วนำมาผสมกับฟางอีกเล็กน้อยเพื่อเป็นวัสดุในการเพาะเห็ด ซึ่งเขาบอกว่าใช้เวลาเพียงแค่ 15 วันเท่านั้นก็สามารถเก็บเกี่ยวได้นอกจากนี้ เขายังนำกากกาแฟที่เหลือจากการเพาะเห็ดไปผลิตเป็นกระเบื้องฉนวนที่สามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพนำมาทดแทนพลาสติกได้อีกด้วย นับว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจในการนำขยะเหลือทิ้งมาต่อยอดสร้างประโยชน์ได้ เพราะกากกาแฟนั้นประกอบไปด้วยธาตุไนโตรเจนสูง มีโพแทสเซียม และฟอสฟอรัส และธาตุอาหารต่างอีกมากมาย อย่างในประเทศไทยก็มีงานวิจัยโดยน.ส.นงลักษณ์ บรรยงวิมลณัฐ นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ สำนักเทคโนโลยีชุมชน กรมวิทยาศาสตร์บริการ ที่นำกากกาแฟมาผสมกับขี้เลื่อยยางพาราในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 เพื่อเป็นวัสดุในการปลูก พบว่า เห็ดที่เพาะได้นั้นมีโปรตีนสูงกว่าเพาะในขี้เลื่อยล้วนๆถึง 2 เท่า และมีแคลอรีต่ำว่าใช้ขี้เลื่อยล้วนๆถึง 30% วิธีนี้นอกจากผลผลิตที่ได้จะแตกต่างจากการเพาะเห็ดแบบทั่วไปแล้ว ยังช่วยเกษตรกรลดต้นทุนการผลิตแถมยังช่วยกำจัดขยะจากกากกาแฟได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand

แท็กบทความ

กากกาแฟ
เห็ดนางรม
ลดโลกร้อน
กำจัดขยะ
กาแฟ