เอเชียเผชิญอากาศสุดขั้ว หลายประเทศร้อนทุบสถิติ

ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อหลายประเทศทั่วโลก เกิดสภาพอากาศสุดขั้วมากขึ้น ทั้งร้อนจัด แล้งจัด ไฟป่ารุนแรง เช่นที่อินเดีย ครึ่งหลังของเดือนเมษายนเผชิญกับสภาพอากาศที่ร้อนจัดคลื่นความร้อนในรัฐเบงกอลตะวันตก รัฐพิหาร และรัฐอานธรประเทศ ทำให้ภูมิภาคดังกล่าวต้องเจอกับอุณหภูมิที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียสติดต่อกันหลายวัน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยตามฤดูกาลประมาณ 5 องศาเซลเซียส อากาศที่ร้อนผิดปกตินี้เกี่ยวพันกับการไหลของอากาศซึ่งทำให้อากาศแห้งกว่าปกติมาก บางรัฐสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั่วคราวเนื่องจากอากาศที่ร้อนนี้ด้วย มีประชาชนเสียชีวิตจากฮีทสโตรกนับสิบคน ป่วยเข้าโรงพยาบาลอีกหลายสิบคน ขณะที่ทางด้าน WMO หรืองค์กการอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า เดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา เป็นเดือนมีนาคมที่ร้อนที่สุดเป็นอันดับ 2 เท่าที่เคยมีการบันทึกข้อมูลไว้ อุณหภูมิที่สูงเกินค่าปกตินี้ ไม่เพียงแต่ที่อินเดีย หลายประเทศของเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากกว่า 10 ประเทศ มีอุณหภูมิสูงสุดทุบสถิติ ข้อมูลจากนักอุตุนิยมวิทยาเผยว่า ร้อนที่สุดอยู่ที่เมียนมาร์ อุณหภูมิสูงสุด 45 องศาฯ ตามมาด้วย ไทย 44.6 องศาฯ อินเดีย 44.5 องศาฯ บังคลาเทศ 42.8 องศาฯ ลาว 42.4 องศาฯ เวียดนาม 42.4 องศาฯ เนปาล 42.2 องศาฯ จีน 41.9 องศาฯ ฟิลิปปินส์ 37 องศาฯ สิงคโปร์ 36.7 องศาฯ อินโดนีเซีย 33 องศาฯ นี่เป็นสิ่งที่บรรดานักวิทยาศาสตร์พยายามออกมาเตือนถึงสภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้น จากผลกระทบของภาวะโลกร้อน ที่มีสาเหตุมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น และถ้าหากทั่วโลกยังไม่ช่วยกันควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงไปมากกว่านี้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติอาจจะรุนแรงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต