
สรุปข่าว
องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุว่านับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเมษายนที่ผ่านมา เกิดภัยพิบัติใหญ่ๆที่สหรัฐไปทั้งหมด 7 ครั้ง แบ่งเป็นภัยที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองและพายุทอร์นาโด บริเวณพื้นที่ตอนกลาง ด้านตะวันออกและตอนใต้ของสหรัฐทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเกิดพายุฤดูหนาวพัดถล่มทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา 1 ครั้ง รวมถึงพายุหลายลูกที่พัดกระหน่ำเข้าแคลิฟอร์เนียตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงมีนาคม ทำให้เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายพื้นที่ 1 ครั้ง มูลค่าความเสียหายทั้งหมดของภัยพิบัติเหล่านี้ สูงกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.54 แสนล้านบาท และทำให้เกิดการเสียชีวิตทางตรงและทางอ้อมถึง 97 ราย ซึ่งองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังเสริมด้วยว่ามูลค่าความเสียหายเฉลี่ยรายปีระหว่างปีพ.ศ. 2523 จนถึงปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 2.73 แสนล้านบาท ส่วนมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยรายปีช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เพราะมากถึง 6.07 แสนล้านบาท ซึ่งหมายความว่าระยะหลังสหรัฐฯเสียหายหนักจากภัยพิบัติด้านสภาพอากาศมากทีเดียว จะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อนไม่ใช่แค่เพียงส่งผลกระทบต่อวิถึชีวิตของประชาชนเท่านั้น แม้แต่ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐเองก็ได้รับความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่มาข้อมูล : -

TNNThailand