
สรุปข่าว
ในช่วงฤดูฝน มักเกิดฝนฟ้าคะนองบ่อยครั้งและบางครั้งก็เกิดปรากฏการณ์ฟ้าผ่าและฟ้าแลบขึ้นด้วย ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยปรากฏการณ์ฟ้าผ่านั้น เกิดจากการปลดปล่อยประจุไฟฟ้าออกจากเมฆฝนฟ้าคะนอง(เมฆคิวมูโลนิมบัส) โดยภายในก้อนเมฆจะมีการไหลเวียนของกระแสอากาศอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้หยดน้ำและก้อนน้ำแข็งในเมฆเสียดสีกันจนเกิดเป็นประจุไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่ประจุบวกจะอยู่บริเวณยอดเมฆ ส่วนประจุลบจะอยู่บริเวณฐานเมฆ ซึ่งประจุลบที่อยู่ฐานเมฆจะเหนี่ยวนำประจุบวกที่อยู่บริเวณพื้นดินใต้ก้อนเมฆ ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าจากก้อนเมฆพุ่งลงสู่พื้นดินเรียกว่า “ฟ้าผ่า” ส่วนปรากฏการณ์ฟ้าแลบนั้น เกิดจากประจุลบบริเวณฐานเมฆ ถูกเหนี่ยวนำเข้าหาประจุบวกที่อยู่ด้านบนของก้อนเมฆ ทำให้เกิดแสงสว่างในก้อนเมฆขึ้นมา หรืออาจจะเกิดจากประจุลบบริเวณฐานเมฆก้อนหนึ่งถูกเหนี่ยวนำกับประจุบวกในเมฆอีกก้อนหนึ่ง ก็จะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าวิ่งข้ามระหว่างก้อนเมฆได้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ที่ทำอันตรายได้ถึงชีวิต มักเกิดขึ้นกับวัตถุที่อยู่เหนือระดับพื้นดิน เนื่องจากกระแสไฟฟ้าต้องการทางลัดระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดิน จะเกิดขึ้นได้ในช่วงก่อนฝนตก ขณะเกิดฝนตกหรือหลังฝนตกก็ได้ แต่ช่วงที่ต้องระวังเป็นพิเศษคือ ช่วงที่เกิดฟ้าคะนองดังนั้นเพื่อความปลอดภัยควรหลีกเลี่ยงการอยู่บริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง ขณะที่เกิดฝนฟ้าคะนอง
- พยากรณ์อากาศวันนี้ 31 พฤษภาคม ฝนฟ้าคะนองทั่วไทย ระวังน้ำท่วมฉับพลัน
- “สเปน” เตือนภัยอากาศร้อนผิดปกติ อุณหภูมิแตะ 40 องศาฯ คาดว่าจะร้อนต่ออีก 1-2 วัน
- พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า 31 พ.ค.-7 มิ.ย. ทั่วไทยมีฝนลดลง
- ฟ้าผ่าเสียชีวิตสะสม 37 รายตั้งแต่ต้นปี เกษตรกรเสี่ยงมากที่สุด
- คาดการณ์ฝนและอุณหภูมิมิ.ย.68 ครึ่งแรกฝนชุก ครึ่งหลังฝนน้อย
- ฝนตกหนัก-น้ำหลาก ปิดเที่ยว "น้ำตกแม่เกิ๋งหลวง" ชั่วคราว
- สภาพอากาศ 7-11 มิ.ย. มรสุมกำลังแรงขึ้น เช็กภาคไหน? ฝนตกหนักอีกระลอก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand