โลกร้อนทำ “ฉลาม” ว่ายน้ำเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น

ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกามีรายงานว่าพบการโจมตีของฉลามเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี จนทำให้ทางการต้องใช้โดรนบินสำรวจความปลอดภัยสำหรับประชาชนที่มาเล่นน้ำที่ชายหาดทุกวันในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากพบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้มีฉลามว่ายน้ำเข้าใกล้ชายฝั่งมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกเพราะปกติฉลามมักเลือกที่จะอยู่ห่างจากมนุษย์เช่นเดียวกับสัตว์ใหญ่ชนิดอื่นๆ แต่ระยะหลังที่มันว่ายน้ำเข้าใกล้เขตชายฝั่งที่มีมนุษย์อยู่กันเยอะ สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากอุณหภูมิของมหาสมุทรที่อุ่นขึ้น ด้านนักอุตุนิยมวิทยาจากเท็กซัสให้เหตุผลอุณหภูมิของมหาสมุทรที่อุ่นขึ้นและการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศทำให้เกิดปรากฏการณ์ “น้ำผุด” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของน้ำทะเลที่เกิดจากมีลมพัดผิวหน้าน้ำออกจากชายฝั่งไป และจะทำให้มวลน้ำด้านล่างซึ่งน้ำเย็นและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแพลงก์ตอนพืชและธาตุอาหารจากก้นทะเลขึ้นมาใกล้ชายฝั่งที่แสงสว่างส่องถึง และเมื่อมีสารอาหารถูกพัดพาเข้ามามากขึ้น ปลาเลยชุกชุมมากเป็นพิเศษนั่นเอง ซึ่งจากการเก็บข้อมูลอัตราการเกิดเหตุฉลามโจมตีมนุษย์ในช่วง 10 ปี ระหว่างปีพ.ศ. 2555-2565 พบว่าที่สหรัฐอเมริกามีเหตุฉลามโจมตีมนุษย์มากที่สุด ในรอบ 10 ปีพบมากถึง 471 ครั้ง ส่วนมากเกิดขึ้นที่รัฐฟลอริดามากที่สุด รองลงมาคือที่ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ เกาะเรอูนียงประเทศฝรั่งเศสและบราซิล ตามลำดับ