
สรุปข่าว
ปภ.รายงานยังมีอุทกภัยในพื้นที่ 6 จังหวัด 21 อำเภอ 88 ตำบล 497 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,054 ครัวเรือน ภาพรวมระดับน้ำลดลง ประสานพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือประชาชนแล้ว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์ฝนตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 16 ตุลาคม 2566 เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 37 จังหวัด จังหวัด 151 อำเภอ 579 ตำบล 2,936 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 61,692 ครัวเรือน
ปัจจุบัน (ข้อมูลวันที่ 16 ต.ค. 66 เวลา 06.00 น.) ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี และนครศรีธรรมราช รวม 21 อำเภอ 88 ตำบล 497 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,054 ครัวเรือน แยกเป็น
1) เพชรบูรณ์ น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ รวม 4 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 360 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
2) พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ วังทอง บางระกำ และเมืองพิษณุโลก รวม 11 ตำบล 34 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 351 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
3) ร้อยเอ็ด น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เชียงขวัญ ทุ่งเขาหลวง และจังหาร รวม 3 ตำบล 4 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 106 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
4) กาฬสินธุ์ น้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ ได้แก่ เมืองกาฬสินธุ์ ร่องคำ ฆ้องชัย ยางตลาด กมลาไสย สามชัย ท่าคันโท หนองกุงศรี สหัสขันธ์ และห้วยเม็ก รวม 59 ตำบล 399 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,152 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
5) อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ และสว่างวีระวงศ์ รวม 10 ตำบล 49 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,070 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
6) นครศรีธรรมราช น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอฉวาง รวม 1 ตำบล 3 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 15 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
ภาพรวมสถานการณ์ระดับน้ำลดลงเกือบทุกพื้นที่ ยังคงมีที่จังหวัดกาฬสินธุ์และอุบลราชธานีที่มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน
โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร เพื่อแก้ไขปัญหา เร่งระบายน้ำ และบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจและจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT”
แฟ้มภาพ ผู้สื่อข่าวกาฬสินธุ์
- ไนจีเรีย น้ำท่วมฉับพลัน เสียชีวิต 151 คน
- น้ำเหนือหลากลงสู่ลุ่มเจ้าพระยา กรมชลฯ แจ้งเตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวังด่วน
- ปภ. ส่ง Cell Broadcast และ SMS เตือน "แม่น้ำพอง" ใกล้ล้นตลิ่ง ให้ยกของขึ้นที่สูง
- ฝนถล่ม "เชียงใหม่" น้ำท่วมสูง-ถนนขาด กระทบหลายอำเภอ
- หวั่นท่วมซ้ำ! กทม. เร่งประสานกรมทางหลวง เคลียร์ดินคูน้ำริม ถ.วิภาวดีฯ หลังฝนตกหนักระบายช้า
- น้ำท่วม “ออสเตรเลีย” เข้าวันที่ 5 เตือนสถานการณ์จะเลวร้ายลงอีกถึงสัปดาห์หน้า
- ฝนตกหนัก น้ำทะลักท่วม “แม่สาย” ชาวบ้านขนของหนีน้ำกลางดึก
ที่มาข้อมูล : -
TNNThailand