เอลนีโญกระทบแอฟริกาหนัก คาดพลิกเป็นลานีญาภายในส.ค.นี้

เอลนีโญกระทบแอฟริกาหนัก คาดพลิกเป็นลานีญาภายในส.ค.นี้

สรุปข่าว

ปรากฏการณ์สภาพอากาศเอลนีโญ (El Niño) ที่เกิดขึ้นข้ามปีตั้งแต่ปีที่แล้วต่อเนื่องจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้พื้นที่ทางตอนใต้ของแอฟริกามีเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมที่แห้งแล้งที่สุดในรอบหลายทศวรรษ โดยสาเหตุมาจากปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปกติ แต่ทาง NOAA คาดการณ์ว่า เอลนีโญมีแนวโน้มกลับสู่ภาวะปกติภายในเดือนมิถุนายนประมาณ 83% และมีโอกาสถึง 62% ที่จะพลิกเป็นลานีญาประมาณเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม แต่จากผลกระทบเอลนีโญที่ลากยาวมาหลายเดือน สร้างความเสียหายอย่างหนัก ประเทศมาลาวี ซิมบับเว และแซมเบียพร้อมใจกันประกาศภาวะภัยพิบัติระดับชาติจากปัญหาภัยแล้งรุนแรง สำหรับที่ซิมบับเวผลผลิตข้าวโพดซึ่งเป็นอาหารหลัก รวมถึงธัญพืชอื่น ๆ ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ส่งผลให้ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น และสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรและประชาชนจำนวนมาก ที่ซิมบับเวจำเป็นต้องใช้เงินถึง 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อบรรเทาผลกระทบของภัยแล้งในครั้งนี้ ขณะที่ในมาลาวี พืชพรรณธัญญาหารที่ปลูกไว้แห้งตาย เกษตรกรเดือดร้อนอย่างหนัก การขโมยพืชผลกลายเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากแหล่งอาหารเริ่มขาดแคลน ทำให้กังวลว่าวิกฤตขาดแคลนอาหารนั้นเริ่มส่อเค้ารุนแรงตั้งแต่ปีนี้และอาจลากยาวไปจนถึงปีหน้า สำหรับวิกฤตอากาศที่เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา นั้นน่าเป็นห่วง เพราะผลกระทบรุนแรง ความเสียหายเยอะ แต่หลายประเทศประสบปัญหาความยากจน และความสามารถในการปรับตัวเข้าของคนในทวีปแอฟริกาอยู่ในระดับต่ำนั่นเอง

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand