ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง

ปากีสถานมีฤดูร้อนยาวนานและรุนแรง แนวโน้มภัยร้อนจัดนี้สะท้อนผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี ขณะนี้เมืองลาฮอร์วัดอุณหภูมิได้สูงทะลุ 43 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทางการปากีสถานได้ออกประกาศเตือนภัยล่วงหน้า โดยคาดว่าอุณหภูมิในหลายจังหวัดจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 4–6 องศาเซลเซียในปีนี้ คลื่นความร้อนนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และแรงงานกลางแจ้งที่มีความเสี่ยงต่อโรคลมแดดและภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง

สรุปข่าว

ปากีสถานกำลังเผชิญกับวิกฤตสภาพอากาศที่รุนแรงและต่อเนื่อง โดยเฉพาะคลื่นความร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี

ปากีสถานมีฤดูร้อนยาวนานและรุนแรง แนวโน้มภัยร้อนจัดนี้สะท้อนผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นทุกปี ขณะนี้เมืองลาฮอร์วัดอุณหภูมิได้สูงทะลุ 43 องศาเซลเซียส ทำให้ประชาชนต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทางการปากีสถานได้ออกประกาศเตือนภัยล่วงหน้า โดยคาดว่าอุณหภูมิในหลายจังหวัดจะสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติถึง 4–6 องศาเซลเซียในปีนี้ คลื่นความร้อนนี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก และแรงงานกลางแจ้งที่มีความเสี่ยงต่อโรคลมแดดและภาวะขาดน้ำอย่างรุนแรง

ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับปากีสถาน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากที่สุดในโลก แม้จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ แต่สภาพภูมิประเทศที่หลากหลายและเปราะบางทำให้ประเทศนี้ต้องเผชิญภัยพิบัติบ่อยครั้ง ทั้งคลื่นความร้อน น้ำท่วม และภัยแล้ง ในปี 2022 ปากีสถานประสบอุทกภัยครั้งใหญ่จากฝนมรสุมที่ตกหนักกว่าค่าเฉลี่ยถึง 190% ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,700 คน และประชาชนกว่า 33 ล้านคนได้รับผลกระทบ บทเรียนจากเหตุการณ์นั้นสะท้อนว่า หากไม่เร่งวางแผนปรับตัวและลดความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อน ประเทศกำลังพัฒนาอย่างปากีสถานจะเผชิญวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นในปากีสถานครั้งนี้ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะหน้า แต่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนว่าโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับตัวเชิงนโยบายและความร่วมมือระดับโลกจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศในระยะยาว

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : TNN EARTH