เปิดสาเหตุทำไม “อินเดีย” อากาศแย่แก้ไม่หาย

เปิดสาเหตุทำไม “อินเดีย” อากาศแย่แก้ไม่หาย

สรุปข่าว


จากรายงานของคณะกรรมการควบคุมมลพิษกลาง ดัชนีคุณภาพอากาศในหลายส่วนของเมืองเดลีนั้นอยู่ระหว่าง 350 ถึง 400 ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน ชาวเมืองนิวเดลีและปริมณฑลต้องทนต่อคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่แบบนี้แทบจะทุกฤดูหนาว เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นจะดักฝุ่นก่อสร้าง รวมถึงปัญหาจากการปล่อยมลพิษของยานพาหนะและยังมีทั้งควันจากการเผาตอไม้และวัชพืชจากหลายพื้นที่ ซึ่งจากรายงานของ IQAir ระบุว่า ในปี 2566 เมืองที่มีมลพิษในอากาศมากที่สุด 100 อันดับแรก มีถึง 83 เมืองที่อยู่ในอินเดีย 


โดยเมืองที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุดเป็นอันดับ 1 ในปี 2566 คือเมืองเบกูซาไร ตั้งอยู่ในรัฐพิหาร ทางตอนเหนือของอินเดีย มีระดับความหนาแน่นของฝุ่น PM 2.5 เฉลี่ยต่อปีสูงถึง 118.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงกว่ามาตรฐานของ WHO ถึง 23 เท่า รองลงมาคือเมืองกูวาฮาติ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนครศักดิ์สิทธิ์ของอินเดีย และอันดับ 3 คือเดลี 


ปัญหาคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่มักเกิดขึ้นทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมาจากหลายปัจจัยด้วยกันอย่างแรกคือ ในช่วงปลายปีจะมีลมตะวันตกเฉียงเหนือพัดเข้าปกคลุมทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งก็จะพัดเอาควันจากการเผาไร่ของเกษตรกรบริเวณรัฐปัญจาบและฮารยานา ซึ่งฝุ่นควันก็ลอยไปไหนไม่ได้เพราะทางตอนเหนือของประเทศมีแนวเทือกเขาหิมาลัยกั้น นอกจากนั้นปลายปียังมีมวลอากาศเย็นที่แผ่ลงมาจากเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งมวลอากาศเย็นนั้นเป็นมวลอากาศที่หนัก ก็จะกดฝุ่นควันต่างๆไว้มากกว่าในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูฝน และปัจจัยสุดท้ายคือยังมีฝุ่นควันจากยานพาหนะ ที่ผสมโรงกับฝุ่นควันจากการเผาทางการเกษตร อุตสาหกรรมต่าง ๆและโรงงานไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ภายในเมือง ซึ่งเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศเจอปัญหานี้เป็นประจำทุกปี 


ก็จะเห็นว่าปัญหามลพิษทางอากาศในอินเดียเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนาน หลัก ๆ มาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมแต่ยังกระทบไปถึงสุขภาพของประชาชนอีกหลายล้านคนทีเดียว

ที่มาข้อมูล : -

ที่มารูปภาพ :

avatar

TNNThailand