กรุงเทพมหานครเปิดเผยแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นในกรุงเทพมหานครมากที่สุดนั้นมาจากรถยนต์ดีเซลมากถึง 57% ตามมาด้วย ฝุ่นทุติยภูมิ ซึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็กที่ลอยในอากาศ ที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีหรือการเปลี่ยนรูปในบรรยากาศของก๊าซสารตั้งต้นบางประเภท เช่น ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2 ทำให้เกิดเป็นสารมลพิษในอากาศ อีก 16% มาจากการเผาไหม้ชีวมวลอย่างเช่นเผาไหม้ใบไม้และหญ้าแห้งอีก 15% รถยนต์เบนซิน 8% และอื่น ๆ เช่นฝุ่นที่เกิดจากอุตสาหกรรม ละอองเกลือหรือละอองดินอีก 4%

สรุปข่าว
กรุงเทพมหานครเปิดเผยแหล่งกำเนิดฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดฝุ่นในกรุงเทพมหานครมากที่สุดนั้นมาจากรถยนต์ดีเซลมากถึง 57% ตามมาด้วย ฝุ่นทุติยภูมิ ซึ่งเป็นฝุ่นขนาดเล็กที่ลอยในอากาศ ที่เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีหรือการเปลี่ยนรูปในบรรยากาศของก๊าซสารตั้งต้นบางประเภท เช่น ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2 ทำให้เกิดเป็นสารมลพิษในอากาศ อีก 16% มาจากการเผาไหม้ชีวมวลอย่างเช่นเผาไหม้ใบไม้และหญ้าแห้งอีก 15% รถยนต์เบนซิน 8% และอื่น ๆ เช่นฝุ่นที่เกิดจากอุตสาหกรรม ละอองเกลือหรือละอองดินอีก 4%

ซึ่งในช่วงสถานการณ์ปกติ ค่าฝุ่นกรุงเทพก็จะอยู่ที่ประมาณ 30 ไมโครกรัมต่อลูกบาศเมตรอยู่แล้ว เพราะมีเรื่องของฝุ่นจากรถยนต์เป็นทุนเดิม แต่พอเข้าฤดูหนาวในช่วงที่ลมหนาวไม่แผ่ลงมา และอากาศนิ่ง ๆ อากาศจะปิดค่าฝุ่นจะอยู่ที่ประมาณ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และถ้าหากช่วงไหนที่เจอทั้งอากาศปิดและมีการเผาค่อนข้างเยอะ อย่างเช่นมีงานพิธีหรือเทศกาลต่าง ๆ ที่ต้องมีการจุดไฟหรือเผากระดาษกันเป็นจำนวนมาก ก็จะทำให้ค่าฝุ่นพุ่งสูงขึ้นไปได้ถึง 90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรได้เลย

- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- หวั่นท่วมซ้ำ! กทม. เร่งประสานกรมทางหลวง เคลียร์ดินคูน้ำริม ถ.วิภาวดีฯ หลังฝนตกหนักระบายช้า
- เคลียร์จบ! กทม.ประกาศสิ้นสุดสาธารณภัย “ตึกถล่ม สตง.”
- ปภ.ทดสอบระบบเตือนภัย ใน 5 จังหวัด เสียงจะดัง 8 วินาที ไม่ต้องตกใจ แค่ทดสอบระบบ
- น้ำท่วมกรุงเทพฯซ้ำซาก กทม.เร่งแผนรับมือ เฝ้าระวัง 24 ชม.
- ผู้ว่า.กทม แถลงผลงาน ก้าวสู่ปีที่ 4 มุ่งสู่เมืองแห่งโอกาส-ความหวัง
- กทม. พาสื่อ สำรวจ ซากตึก สตง. พังถล่ม ระบุ บันไดหนีไฟจุดพบร่างมากที่สุด
ที่มาข้อมูล : กรมอุตุนิยมวิทยา
ที่มารูปภาพ : TNN EARTH
TNNThailand