ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ระบุว่าองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อระดับฝุ่น PM2.5 ได้แก่ ปริมาณมลพิษจากแหล่งกำเนิด ความเร็วลม ความชื้นสัมพัทธ์ และอุณหภูมิในบรรยากาศ
สรุปข่าว
ดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ชมรมนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมไทย ได้ระบุว่าองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อระดับฝุ่น PM2.5 ได้แก่ ปริมาณมลพิษจากแหล่งกำเนิด ความเร็วลม ความชื้นสัมพัทธ์ และอุณหภูมิในบรรยากาศ
ปัจจัยแรก แหล่งกำเนิดฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญมาจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง เช่น แก๊สโซลีน น้ำมันดีเซล การเผาตอซัง ฟางข้าว และวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร รวมถึงการเผาในที่โล่ง เช่น ไฟป่า แหล่งกำเนิดเหล่านี้ก่อให้เกิดอนุภาคขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศและสะสมจนเกิดเป็นฝุ่น PM2.5
ปัจจัยที่ 2 เรื่องของอุณหภูมิ ฝุ่น PM2.5 มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับอุณหภูมิในบรรยากาศ หากอุณหภูมิในพื้นที่ต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส และมีมวลอากาศเย็นปกคลุมบริเวณพื้นดิน ฝุ่น PM2.5 จะมีระดับสูงขึ้น เนื่องจากอากาศเย็นมีแนวโน้มกักเก็บมลพิษให้อยู่ใกล้พื้นดิน
ปัจจัยที่ 3 ความเร็วลมในแนวราบเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการสะสมของฝุ่น PM2.5 หากความเร็วลมต่ำกว่า 3 เมตรต่อวินาที หรือประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ฝุ่นจะสะสมในพื้นที่และมีโอกาสเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้น
ปัจจัยที่ 4 คือความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ โดยพบว่าระดับฝุ่นจะเพิ่มสูงขึ้นเมื่อความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในช่วง 50-84% เนื่องจากอนุภาคฝุ่นจะจับตัวกับความชื้นในอากาศ แต่หากความชื้นสัมพัทธ์อยู่ในช่วง 30-50% ฝุ่นจะลดระดับลง เพราะความชื้นในระดับนี้ช่วยพัดพาฝุ่นออกจากบรรยากาศ ซึ่งจะสังเกตได้ชัดเจนว่าประเทศที่มีลักษณอากาศแบบร้อนชื้น เลยมักจะพบว่ามีค่าฝุ่นสูงกว่าประเทศต่ำ
ที่มาข้อมูล : กรมควบคุมมลพิษ
ที่มารูปภาพ : TNN EARTH

TNNThailand