
สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกำลังส่งผลกระทบต่อนกทั่วโลกเร็วกว่าที่พวกมันสามารถปรับตัวได้ งานวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์เคซีย์ ยังเฟลช จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยเคลมสัน ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง "วงจรชีวิต" ของนก—อัตราการเติบโต การพัฒนา การสืบพันธุ์ และอายุขัย—กับสภาพแวดล้อมที่พวกมันอาศัยอยู่ เพื่อทำความเข้าใจว่านกจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างไร
การศึกษานี้ครอบคลุมถึง 7,477 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นนกที่ไม่ใช่นกทะเลและอาศัยอยู่ประจำทั่วโลก โดยใช้ข้อมูลสภาพภูมิอากาศตั้งแต่ปี 1950 ถึง 2022 นักวิจัยพบว่ามีความเชื่อมโยงสำคัญระหว่างความแปรปรวนของสภาพแวดล้อมและอายุขัยของนก โดยทั่วไป นกที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงมากมักจะมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้พวกมันอยู่รอดในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม นกที่มีอายุยืนเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น เนื่องจากพวกมันมีช่วงชีวิตที่ยาวขึ้น จึงมีจำนวนรุ่น (generations) น้อยกว่า ทำให้การปรับตัวทางวิวัฒนาการเกิดขึ้นช้ากว่านกที่มีอายุสั้น
สรุปข่าว
สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกำลังส่งผลกระทบต่อนกทั่วโลกเร็วกว่าที่พวกมันสามารถปรับตัวได้ งานวิจัยที่นำโดยศาสตราจารย์เคซีย์ ยังเฟลช จากภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยเคลมสัน ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง "วงจรชีวิต" ของนก—อัตราการเติบโต การพัฒนา การสืบพันธุ์ และอายุขัย—กับสภาพแวดล้อมที่พวกมันอาศัยอยู่ เพื่อทำความเข้าใจว่านกจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอย่างไร
การศึกษานี้ครอบคลุมถึง 7,477 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นนกที่ไม่ใช่นกทะเลและอาศัยอยู่ประจำทั่วโลก โดยใช้ข้อมูลสภาพภูมิอากาศตั้งแต่ปี 1950 ถึง 2022 นักวิจัยพบว่ามีความเชื่อมโยงสำคัญระหว่างความแปรปรวนของสภาพแวดล้อมและอายุขัยของนก โดยทั่วไป นกที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงมากมักจะมีอายุยืนยาวขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้พวกมันอยู่รอดในสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม นกที่มีอายุยืนเหล่านี้อาจมีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมากขึ้น เนื่องจากพวกมันมีช่วงชีวิตที่ยาวขึ้น จึงมีจำนวนรุ่น (generations) น้อยกว่า ทำให้การปรับตัวทางวิวัฒนาการเกิดขึ้นช้ากว่านกที่มีอายุสั้น
แนวคิดนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ “ใช้ชีวิตเร็ว ตายเร็ว” ซึ่งพบในนกบางชนิดที่มีอายุสั้นและให้กำเนิดลูกจำนวนมาก เช่น นกฟินช์สองแถบที่มีช่วงรุ่นเพียง 1.4 ปี ตรงกันข้ามกับนกกระตั้วหงอนเหลืองที่มีช่วงรุ่นยาวถึง 27.2 ปี ซึ่งหมายความว่าในช่วงเวลาเดียวกัน นกฟินช์อาจผ่านการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมได้ถึง 19 รุ่น ในขณะที่นกกระตั้วอาจมีเพียง 1 รุ่น ทำให้นกกระตั้วมีโอกาสน้อยกว่าที่จะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ที่สำคัญ อัตราการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศไม่ได้ส่งผลกระทบเท่ากันในทุกพื้นที่ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ 1°C อาจมีผลกระทบรุนแรงต่อนกในพื้นที่ที่มีความแปรปรวนของอากาศต่ำ แต่มีผลกระทบน้อยกว่าในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูงอยู่แล้ว การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จึงมีความสำคัญต่อการประเมินผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อสัตว์ป่า
Youngflesh เตือนว่า นกส่วนใหญ่ไม่ว่าจะมีวงจรชีวิตแบบเร็วหรือช้า กำลังเผชิญกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมที่เร็วเกินกว่าที่พวกมันจะปรับตัวได้ ผลการศึกษานี้จึงเป็นแนวทางสำคัญสำหรับนักอนุรักษ์ในการระบุว่าสายพันธุ์ใดมีความเสี่ยงสูงที่สุด และสามารถใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนการอนุรักษ์ เช่น การฟื้นฟูและปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยของนกที่มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศมากที่สุด
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ปฏิวัติวัฒนธรรมการบริโภคทิ้งขว้าง สตาร์ทอัปในอังกฤษคืนชีพให้เต็นท์เก่าเป็นสินค้าใหม่
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
ที่มาข้อมูล : news.clemson.edu
ที่มารูปภาพ : Reuters
TNNThailand