
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน CABI Reviews ระบุว่า ทุกภูมิภาคในแอฟริกาจะเผชิญกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นถึง 1.5°C ภายในปี 2040 แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ ข้อมูลนี้เป็นผลจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิมบับเวและสถาบันวิจัยปศุสัตว์นานาชาติ (ILRI) ในเคนยา ซึ่งเน้นถึงความจำเป็นเร่งด่วนของ "เส้นทางการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม" เพื่อให้ภาคเกษตรกรรมของแอฟริกาสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน
แม้ว่าแอฟริกาจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 4% ของโลก แต่ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลรุนแรงต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตของประชากร โดยเฉพาะเกษตรกรรมที่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศเป็นหลัก ศาสตราจารย์พอล มาปฟูโม ผู้เขียนนำของงานวิจัย ระบุว่า ภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะยิ่งซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และเพศภาวะ ซึ่งเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่แล้วในภูมิภาค
สรุปข่าว
งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน CABI Reviews ระบุว่า ทุกภูมิภาคในแอฟริกาจะเผชิญกับอุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นถึง 1.5°C ภายในปี 2040 แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับต่ำ ข้อมูลนี้เป็นผลจากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิมบับเวและสถาบันวิจัยปศุสัตว์นานาชาติ (ILRI) ในเคนยา ซึ่งเน้นถึงความจำเป็นเร่งด่วนของ "เส้นทางการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม" เพื่อให้ภาคเกษตรกรรมของแอฟริกาสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างยั่งยืน
แม้ว่าแอฟริกาจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียง 4% ของโลก แต่ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนกำลังส่งผลรุนแรงต่อระบบนิเวศและวิถีชีวิตของประชากร โดยเฉพาะเกษตรกรรมที่ต้องพึ่งพาสภาพอากาศเป็นหลัก ศาสตราจารย์พอล มาปฟูโม ผู้เขียนนำของงานวิจัย ระบุว่า ภัยพิบัติทางสภาพอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นจะยิ่งซ้ำเติมความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ สังคม และเพศภาวะ ซึ่งเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกอยู่แล้วในภูมิภาค
แนวทางการปรับตัวต้องอาศัยการ "ตั้งโปรแกรมใหม่" ให้กับระบบเพาะปลูก ปศุสัตว์ และประมง เพื่อให้สามารถรับมือกับภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งรวมถึงการลงทุนในวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การฟื้นฟูพืชและสัตว์สายพันธุ์ที่ถูกละเลย การพัฒนาสุขภาพดินและฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรม ตลอดจนการเสริมสร้างตลาดและโอกาสทางการค้าสำหรับเกษตรกร
ศาสตราจารย์มาปฟูโมเน้นย้ำว่า การปฏิรูปเกษตรกรรมของแอฟริกาต้องขับเคลื่อนโดย "การปฏิวัติอุตสาหกรรมสีเขียว" เพื่อสร้างระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกัน ระบบการศึกษาและงานวิจัยต้องได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองต่อความต้องการทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง
นักวิจัยสรุปว่า กรอบแนวคิดการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรมนี้จะช่วยส่งเสริมความเท่าเทียม เพิ่มศักยภาพของชุมชนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปูทางสู่ภาคเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ลดความยากจน และมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยคาร์บอนของโลกอย่างแท้จริง
- โลกร้อนไม่ใช่ภัยเงียบ ธารน้ำแข็งทั่วโลกกำลังหายไป เข้าใกล้จุดวิกฤตอย่างไม่มีวันย้อนกลับ
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- อิฐรีไซเคิลลดคาร์บอน นวัตกรรมสีเขียวสู้โลกร้อน ถึงแพงกว่าแต่คุ้มที่จะจ่าย
- โลกร้อนหยุดไม่อยู่! ทุกองศามีความหมาย
- เมื่อมหาสมุทรกำลังมืดลง สัญญาณเตือนวิกฤตใหม่ของโลก
TNNThailand