
“เรเชล ไคท์” ทูตพิเศษด้านสภาพอากาศของสหราชอาณาจักร ได้แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โลกยังต้องดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางของภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกรุงปารีส แม้ว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม โดยสหราชอาณาจักรยืนยันจะเดินหน้าบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“ไคท์” เน้นย้ำว่า แม้สหรัฐฯ จะเปลี่ยนท่าที แต่ฉันทามติทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ประเทศต่าง ๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจก
สรุปข่าว
“เรเชล ไคท์” ทูตพิเศษด้านสภาพอากาศของสหราชอาณาจักร ได้แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า โลกยังต้องดำเนินการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางของภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในกรุงปารีส แม้ว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าวก็ตาม โดยสหราชอาณาจักรยืนยันจะเดินหน้าบรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของตนเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“ไคท์” เน้นย้ำว่า แม้สหรัฐฯ จะเปลี่ยนท่าที แต่ฉันทามติทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นที่ยอมรับทั่วโลก ประเทศต่าง ๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการลดคาร์บอนและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการลดก๊าซเรือนกระจก
นอกจากนี้ “ไคท์” ยังกล่าวถึงความกังวลเกี่ยวกับการจัดสรรงบประมาณของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของอังกฤษเพื่อการป้องกันประเทศ โดยยืนยันว่ายังไม่มีการตัดสินใจใด ๆ ที่จะเบี่ยงเบนเงินออกจากโครงการพลังงานสีเขียว ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศ
ในส่วนของความร่วมมือระดับโลก “ไคท์” ระบุว่า แม้ว่าสหรัฐฯ จะถอนตัวออกจากโครงการความร่วมมือในการเปลี่ยนผ่านพลังงานอย่างยุติธรรม (Just Energy Transition Partnership – JETP) แล้ว แต่ประเทศพันธมิตรอื่น ๆ ยังคงลงทุนและให้การสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด เช่น การพัฒนาพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ การพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture and Storage – CCS) และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับพลังงานหมุนเวียน
สถานการณ์โลกร้อนในปัจจุบันแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่ชัดเจนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อนที่รุนแรงขึ้น พายุที่ถี่ขึ้น และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนทั่วโลก สหราชอาณาจักรจึงมุ่งมั่นดำเนินมาตรการที่เข้มข้นขึ้นเพื่อลดผลกระทบดังกล่าว รวมถึงการออกนโยบายที่ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนและการลดขยะคาร์บอนในการผลิตสินค้าและบริการ
ด้วยความพยายามเหล่านี้ สหราชอาณาจักรแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในการแก้ไขวิกฤตโลกร้อน แม้เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองระหว่างประเทศ การเดินหน้าอย่างต่อเนื่องของนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้โลกสามารถรับมือกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศ และสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป
- โลกเจอคลื่นความร้อน เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30 วันต่อปี จะมากกว่านี้หากไม่ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล
- ปฏิวัติวัฒนธรรมการบริโภคทิ้งขว้าง สตาร์ทอัปในอังกฤษคืนชีพให้เต็นท์เก่าเป็นสินค้าใหม่
- ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง
- โลกจะร้อนทุบสถิติใน 5 ปี อุตุฯโลกชี้ภัยธรรมชาติเพิ่มแน่ ทั้งไฟป่า น้ำท่วม ภัยแล้งรุนแรง
- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- ปากีสถานร้อนจัด ประชาชนเสี่ยงขาดน้ำรุนแรง
- "มูลเพนกวิน" สร้างเมฆบังแดด ช่วยชะลอโลกร้อนที่แอนตาร์กติกา
TNNThailand