เตือนน้ำท่วมปลายพ.ค. 14 จังหวัดเหนือ-อีสาน เสี่ยงน้ำไหลหลาก ฝนตกหนักสะสม

เตือนน้ำท่วมปลายพ.ค. 14 จังหวัดเหนือ-อีสาน  เสี่ยงน้ำไหลหลาก ฝนตกหนักสะสม

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์  ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิตเตือนเฝ้าระวังน้ำไหลหลากและฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงปลายเดือนพ.ค. 68

 

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพ.ค. ระหว่างวันที่ 23–29 พ.ค. ประเทศไทยจะเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนถึงตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกหนักในหลายจังหวัด อันได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ ในภาคเหนือ รวมถึง เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา และขอนแก่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

สรุปข่าว

“ดร.เสรี” เตือนช่วงวันที่ 23–29 พ.ค. ภาคเหนือและภาคอีสาน เตรียมรับมือฝนตกหนัก น้ำไหลหลาก และน้ำท่วมรอการระบายในหลายพื้นที่ แม้ไม่ถึงขั้นอุทกภัยใหญ่ แต่ควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เชิงเขาและชุมชนที่มีระบบระบายน้ำจำกัด

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์  ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิตเตือนเฝ้าระวังน้ำไหลหลากและฝนตกหนักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงปลายเดือนพ.ค. 68

 

ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพ.ค. ระหว่างวันที่ 23–29 พ.ค. ประเทศไทยจะเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนถึงตอนกลาง ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกหนักในหลายจังหวัด อันได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา ลำปาง ลำพูน น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และเพชรบูรณ์ ในภาคเหนือ รวมถึง เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ นครราชสีมา และขอนแก่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ลักษณะของฝนในช่วงนี้จัดอยู่ในระดับที่อาจก่อให้เกิดน้ำไหลหลาก และน้ำท่วมขังรอการระบายในพื้นที่ชุมชน แม้จะไม่มีแนวโน้มว่าจะเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่หรือมหาอุทกภัยก็ตาม ทั้งนี้ เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักหลายแห่งยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าตลิ่ง ทำให้น้ำที่ไหลหลากลงมาอย่างรวดเร็วนั้น ก็จะระบายออกได้เร็วเช่นกัน อย่างไรก็ตาม น้ำที่ไหลหลากอย่างฉับพลันยังคงมีความเสี่ยงในการสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน โดยเฉพาะหากประชาชนไม่สามารถเคลื่อนย้ายสิ่งของหรืออพยพได้ทันเวลา

 

ช่วงวันที่ 23–26 พ.ค. ถือเป็นระยะที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงสูง เช่น อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากน้ำหลากจากพื้นที่ภูเขา ขณะที่ช่วงวันที่ 26–29 พ.ค. ปริมาณฝนอาจเริ่มลดลง แต่อันตรายจากน้ำหลากยังคงมีอยู่ เนื่องจากดินมีความชุ่มน้ำในระดับสูงจากฝนสะสมก่อนหน้านี้ จึงอาจเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ง่าย

ปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณที่ชี้ว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากฝนตกหนักในพื้นที่ชุมชนยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะในบริเวณที่ระบบระบายน้ำยังไม่สมบูรณ์ หรือมีข้อจำกัดทางภูมิประเทศ เช่น พื้นที่เชิงเขา พื้นที่ลุ่ม และเขตเมืองที่มีสิ่งปลูกสร้างหนาแน่น

 

สถานการณ์ฝนและน้ำหลากในปีนี้คาดว่าจะเริ่มคลี่คลายลงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ประชาชนควรติดตามข้อมูลพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถเตรียมตัวและป้องกันความเสียหายได้อย่างทันท่วงที

 

การเฝ้าระวังต่อเนื่อง และความร่วมมือระหว่างภาครัฐและประชาชนจะเป็นกุญแจสำคัญในการลดผลกระทบจากภัยธรรมชาติครั้งนี้ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยและใช้ความระมัดระวังในช่วงสัปดาห์ที่มีฝนตกหนักนี้อย่างเต็มที่