ฤดูมรสุมของอินเดียมาแล้ว ปีนี้ฝนมาเร็วสุดในรอบ 16 ปี

ฤดูมรสุมของอินเดียมาแล้ว ปีนี้ฝนมาเร็วสุดในรอบ 16 ปี

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ประกาศว่า ฝนจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ได้พัดปกคลุมชายฝั่งรัฐเกรละ (Kerala) ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้สุดของประเทศก่อนกำหนดถึง 8 วัน นับเป็นการเริ่มต้นฤดูฝนที่เร็วที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งฝนเคยเริ่มต้นในวันที่ 23 พฤษภาคม โดยปกติแล้ว ฤดูมรสุมจะเริ่มขึ้นที่รัฐเกรละราววันที่ 1 มิถุนายน ก่อนจะค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วประเทศในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แต่ในปีนี้ ฝนได้เริ่มตกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของเกษตรกรทั่วประเทศที่ต่างเฝ้ารอความชุ่มฉ่ำหลังจากเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงต่อเนื่องหลายสัปดาห์

สำหรับฤดูมรสุมมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของอินเดีย โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 70% ของปริมาณน้ำฝนทั้งปี ซึ่งจำเป็นต่อการเกษตร การเติมน้ำให้แหล่งกักเก็บ และการผลิตพลังงาน ราวครึ่งหนึ่งของพื้นที่เกษตรกรรมในอินเดียยังไม่มีระบบชลประทานที่ครอบคลุม จึงพึ่งพาน้ำฝนจากมรสุมอย่างเต็มที่ เพื่อเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวโพด ข้าวเปลือก ถั่วเหลือง ฝ้าย และอ้อย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ดังนั้น การมาของฝนก่อนกำหนดในปีนี้จึงสร้างความหวังให้กับเกษตรกรว่าจะมี "ฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์" หรือ bumper harvest ที่ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพด้านอาหารและราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ

สรุปข่าว

ฝนจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดียได้พัดปกคลุมรัฐเกรละก่อนกำหนดถึง 8 วัน นับเป็นการเริ่มต้นฤดูฝนที่เร็วที่สุดในรอบ 16 ปี ซึ่งถือเป็นข่าวดีที่ช่วยคลี่คลายอากาศร้อนรุนแรง และเป็นสัญญาณบวกต่อผลผลิตเกษตรในปีนี้

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา สำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ประกาศว่า ฝนจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ได้พัดปกคลุมชายฝั่งรัฐเกรละ (Kerala) ซึ่งเป็นรัฐทางตอนใต้สุดของประเทศก่อนกำหนดถึง 8 วัน นับเป็นการเริ่มต้นฤดูฝนที่เร็วที่สุดในรอบ 16 ปี นับตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งฝนเคยเริ่มต้นในวันที่ 23 พฤษภาคม โดยปกติแล้ว ฤดูมรสุมจะเริ่มขึ้นที่รัฐเกรละราววันที่ 1 มิถุนายน ก่อนจะค่อย ๆ แผ่ขยายไปทั่วประเทศในช่วงกลางเดือนกรกฎาคม แต่ในปีนี้ ฝนได้เริ่มตกอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของเกษตรกรทั่วประเทศที่ต่างเฝ้ารอความชุ่มฉ่ำหลังจากเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงต่อเนื่องหลายสัปดาห์

สำหรับฤดูมรสุมมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของอินเดีย โดยคิดเป็นสัดส่วนถึงราว 70% ของปริมาณน้ำฝนทั้งปี ซึ่งจำเป็นต่อการเกษตร การเติมน้ำให้แหล่งกักเก็บ และการผลิตพลังงาน ราวครึ่งหนึ่งของพื้นที่เกษตรกรรมในอินเดียยังไม่มีระบบชลประทานที่ครอบคลุม จึงพึ่งพาน้ำฝนจากมรสุมอย่างเต็มที่ เพื่อเพาะปลูกพืชสำคัญอย่างข้าวโพด ข้าวเปลือก ถั่วเหลือง ฝ้าย และอ้อย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของประเทศ ดังนั้น การมาของฝนก่อนกำหนดในปีนี้จึงสร้างความหวังให้กับเกษตรกรว่าจะมี "ฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์" หรือ bumper harvest ที่ไม่เพียงช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร แต่ยังส่งผลดีต่อเสถียรภาพด้านอาหารและราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศ

ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอินเดีย ระบุว่า ขณะนี้มรสุมได้พัดปกคลุมพื้นที่ของรัฐเกรละ ตลอดจนบางส่วนของรัฐทมิฬนาฑู และกรณาฏกะ รวมถึงพื้นที่ในรัฐมิซอรัมทางตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ลมมรสุมจะพัดปกคลุมไปยังรัฐกัว มหาราษฏระ อานธรประเทศ รัฐทางตะวันออกเฉียงเหนือ เบงกอลตะวันตก รวมถึงพื้นที่ที่เหลือของรัฐกรณาฏกะและทมิฬนาฑู ภายในอีก 2 ถึง 3 วันข้างหน้า

ปีนี้ อินเดียต้องเผชิญคลื่นความร้อนที่รุนแรงเป็นพิเศษ โดยบางพื้นที่มีอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 45 องศาเซลเซียส ทำให้ฝนมรสุมที่มาเร็วนับเป็นข่าวดีที่ช่วยบรรเทาความร้อนลงได้ระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า แม้มรสุมที่เริ่มเร็วอาจมีข้อดีต่อการเกษตร แต่ก็ต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงจากฝนตกหนักเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาน้ำท่วม ดินถล่ม และโรคระบาดในพื้นที่ชนบทที่ระบบสาธารณูปโภคยังไม่พร้อมรับมือ

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters