
"เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร หากขยะพลาสติกล้นโลก?"
นี่ไม่ใช่แค่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคที่ทำให้เราต้องกลับมาฉุกคิดถึงปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันๆ และส่งผลกระทบกับทุกคนทั้งทางตรงและทางอ้อม กลายเป็นวัฏจักรที่ไม่สามารถหนีได้พ้นไม่ว่าทางใดก็ตาม หากว่าเรายังคงต้องใช้อากาศหายใจร่วมกัน บริโภคอาหารจากแหล่งเดียวกัน
ปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าพลาสติกเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคนและมีส่วนทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่ความสบายก็แลกมากับวิกฤตปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังทำร้ายโลกอย่างรุนแรง เดิมทีพลาสติกที่เราใช้ใส่ของกันเคยเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยกอบกู้โลกจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทนทาน น้ำหนักเบา ราคาถูก สามารถใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเสื่อมสภาพการใช้งาน แถมยังนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้อย่าไม่รู้จบ พลาสติกจึงกลายเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single-use Plastic ทั้งจาน ชาม ช้อน ส้อม ถุงพลาสติก และสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ อีกมากมายที่พลาสติกจะสามาถแปรสภาพปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย กว่าจะรู้ตัวอีกที รอบตัวเราก็เต็มไปด้วยพลากติกมากมาย
ทำไม “พลาสติก” ถึงกลายเป็นตัวร้าย?
นับตั้งแต่การคิดค้นพลาสติขึ้นจนถึงปัจจุบันที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย มีพลาสติกถูกผลิตขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 8,300 ล้านตัน ปัจจุบันตัวเลขการผลิตพลาสติกทั่วโลกอยู่ที่ 400 ล้านตันต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งภายในปี 2050 จำนวนพลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นอาจมีมากกว่าปลาในท้องทะเล ถึงแม้ว่าพลาสติกจะช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็แลกมากับปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นการใช้ช้อน ส้อมพลาสติกเพียงแค่ 1 คู่ สามารถสร้างขยะพลาสติกอย่างน้อย 3-4 ชิ้นต่อการใช้งาน และ 1 ใน 3 ของจำนวนผลิตภัณฑ์จากพลากติกที่ถูกผลิตขึ้นกลายเป็นขยะแม้ว่าจะยังไม่ได้ผ่านการใช้งานก็ตาม รายงานจากสหประชาชาติระบุว่าปัจจุบันโลกมีประชากร 8,000 ล้านคน นั่นหมายถึงขยะจำนวนมหาศาลและเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกวัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ ส่วนที่เหลือมีจุดหมายปลายทางที่บ่อขยะ รอวันฝังกลบปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติ แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานหลายร้อยปีก็ตาม
เมื่อกระบวนการย่อยสลายสร้างปัญหา
ความน่ากังวลของปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะกระบวนการย่อยสลายทำให้พลาสติกชิ้นใหญ่เสื่อมสภาพและแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ไมโครพลาสติก” มีขนาดน้อยกว่า 5 มิลลิเมตร ไปจนถึงขนาดที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อหลุดรอดและปนเปื้อนลงสู่ธรรมชาติก็จะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ตามมา และยังส่งผลกระทบกับสุขภาพของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากไมโครพลาสติกเหล่านี้กระจายอยู่ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นในอากาศที่เราหายใจ ในน้ำที่เราใช้อุปโภค-บริโภค ในอาหารที่เรากิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แม้กระทั่งจุดที่ลึกที่สุดของโลก จุดที่สูงที่สุดของโลก หรือสถานที่ที่แทบจะไม่มีคนอยู่อาศัยก็ยังมีรายงานการพบไมโครพลาสติกปนเปื้อนเช่นกัน
สรุปข่าว
"เราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร หากขยะพลาสติกล้นโลก?"
นี่ไม่ใช่แค่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคที่ทำให้เราต้องกลับมาฉุกคิดถึงปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกวันๆ และส่งผลกระทบกับทุกคนทั้งทางตรงและทางอ้อม กลายเป็นวัฏจักรที่ไม่สามารถหนีได้พ้นไม่ว่าทางใดก็ตาม หากว่าเรายังคงต้องใช้อากาศหายใจร่วมกัน บริโภคอาหารจากแหล่งเดียวกัน
ปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าพลาสติกเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคนและมีส่วนทำให้เราใช้ชีวิตได้สะดวกสบายมากขึ้น แต่ความสบายก็แลกมากับวิกฤตปัญหาสิ่งแวดล้อมที่กำลังทำร้ายโลกอย่างรุนแรง เดิมทีพลาสติกที่เราใช้ใส่ของกันเคยเป็นฮีโร่เข้ามาช่วยกอบกู้โลกจากปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ด้วยคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งาน ทนทาน น้ำหนักเบา ราคาถูก สามารถใช้ซ้ำได้เรื่อย ๆ จนกว่าจะเสื่อมสภาพการใช้งาน แถมยังนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้อย่าไม่รู้จบ พลาสติกจึงกลายเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง หรือ Single-use Plastic ทั้งจาน ชาม ช้อน ส้อม ถุงพลาสติก และสิ่งของเครื่องใช้อื่นๆ อีกมากมายที่พลาสติกจะสามาถแปรสภาพปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้หลากหลาย กว่าจะรู้ตัวอีกที รอบตัวเราก็เต็มไปด้วยพลากติกมากมาย
ทำไม “พลาสติก” ถึงกลายเป็นตัวร้าย?
นับตั้งแต่การคิดค้นพลาสติขึ้นจนถึงปัจจุบันที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย มีพลาสติกถูกผลิตขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 8,300 ล้านตัน ปัจจุบันตัวเลขการผลิตพลาสติกทั่วโลกอยู่ที่ 400 ล้านตันต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นจากความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งภายในปี 2050 จำนวนพลาสติกที่ถูกผลิตขึ้นอาจมีมากกว่าปลาในท้องทะเล ถึงแม้ว่าพลาสติกจะช่วยให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็แลกมากับปริมาณขยะที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมหาศาลเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นการใช้ช้อน ส้อมพลาสติกเพียงแค่ 1 คู่ สามารถสร้างขยะพลาสติกอย่างน้อย 3-4 ชิ้นต่อการใช้งาน และ 1 ใน 3 ของจำนวนผลิตภัณฑ์จากพลากติกที่ถูกผลิตขึ้นกลายเป็นขยะแม้ว่าจะยังไม่ได้ผ่านการใช้งานก็ตาม รายงานจากสหประชาชาติระบุว่าปัจจุบันโลกมีประชากร 8,000 ล้านคน นั่นหมายถึงขยะจำนวนมหาศาลและเพิ่มปริมาณมากขึ้นทุกวัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีไม่ถึง 10% ด้วยซ้ำที่สามารถนำกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ ส่วนที่เหลือมีจุดหมายปลายทางที่บ่อขยะ รอวันฝังกลบปล่อยให้ย่อยสลายตามธรรมชาติ แม้ว่าจะต้องใช้ระยะเวลานานหลายร้อยปีก็ตาม
เมื่อกระบวนการย่อยสลายสร้างปัญหา
ความน่ากังวลของปัญหามลพิษจากขยะพลาสติกยังไม่หมดเพียงแค่นั้น เพราะกระบวนการย่อยสลายทำให้พลาสติกชิ้นใหญ่เสื่อมสภาพและแตกตัวเป็นชิ้นเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “ไมโครพลาสติก” มีขนาดน้อยกว่า 5 มิลลิเมตร ไปจนถึงขนาดที่เรามองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เมื่อหลุดรอดและปนเปื้อนลงสู่ธรรมชาติก็จะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ตามมา และยังส่งผลกระทบกับสุขภาพของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากไมโครพลาสติกเหล่านี้กระจายอยู่ในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นในอากาศที่เราหายใจ ในน้ำที่เราใช้อุปโภค-บริโภค ในอาหารที่เรากิน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แม้กระทั่งจุดที่ลึกที่สุดของโลก จุดที่สูงที่สุดของโลก หรือสถานที่ที่แทบจะไม่มีคนอยู่อาศัยก็ยังมีรายงานการพบไมโครพลาสติกปนเปื้อนเช่นกัน
“การรีไซเคิล” เหมือนจะง่ายแต่กระบวนการซับซ้อน
เมื่อประชากรโลกเพิ่มขึ้น ปริมาณขยะก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย การรีไซเคิลจึงเป็นแนวทางลดขยะที่คนฝากความหวังว่าจะช่วยนำพลาสติกส่งกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตอีกครั้งเพื่อลดความต้องการพลาสติกใหม่ แต่ในความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะพลาสติกถูกแบ่งเป็น 7 ประเภทตามคุณสมบัติเฉพาะและการใช้งาน พลาสติกต่างชนิดกันไม่สามารถรีไซเคิลรวมกันได้ อย่างเช่นขวดน้ำดื่ม 1 ขวด ก็ยังประกอบขึ้นจากพลาสติกหลายประเภทที่แตกต่างกัน ตั้งแต่พลาสติกซีลฝาขวด ฝาขวดน้ำ ตัวขวด หรือแม้กระทั่งฉลากก็เป็นพลาสติกคนละประเภท ดังนั้นการรีไซเคิลจะมีประสิทธิภาพสูงสุดก็ต่อเมื่อมีการจัดการขยะที่ดีและคัดแยกอย่างถูกต้องตั้งแต่ต้นทาง
ขยะพลาสติกที่ไม่ใช่พลาสติก
อุปสรรคใหญ่อีกประการคือบรรจุภัณฑ์เคลือบพลาสติกและซองพลาสติกสีเงินสำหรับใส่อาหารที่นิยมใช้ทั่วไปในปัจจุบัน หากดูผิวเผินคงไม่ต่างจากขยะพลาสติกทั่วไป แต่ความจริงแล้วกว่า 71% ของทั้งหมดไม่สามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ เพราะมีส่วนประกอยของอลูมิเนียม หรืออาจเป็นกระดาษที่เคลือบพลาสติก หากจะนำไปรีไซเคิลต้องแยกชิ้นพลาสติกออกก่อน สร้างความยุ่งยากเพิ่มมากขึ้น และไม่มีใครทำ นอกจากนี้กระบวนการรีไซเคิลพลาสติกมีต้นทุนสูงมากกว่าการผลิตขึ้นมาใหม่ พลาสติกบางประเภทเมื่อถูกรีไซเคิลซ้ำ ๆ จะก่อสารพิษจากสารเคมี แถมคุณภาพก็ยังลดลงเรื่อย ๆ เสี่ยงสารเคมีปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือแม้กระทั่งกระบวนการรีไซเคิลเองก็สร้างมลพิษส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไม่แพ้กัน ด้วยสาเหตุนี้ทำให้เม็ดพลาสติกบริสุทธิ์มีคุณภาพมากกว่า และเป็นที่นิยมมากกว่า
ประเทศอุตสาหกรรมผลักปัญหา ประเทศด้อยพัฒนาต้องรับกรรม
เมื่อประเทศอุตสาหกรรมก่อขยะพลาสติกมหาศาลเกินความสามารถในการจัดการ ขณะที่การรีไซเคิลมีต้นทุนสูงและก่อมลพิษที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และมีกฏหมายการควบคุมที่เข้มแข็ง ตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งอัดแน่นไปด้วยขยะพลาสติกจำนวนมากจึงกลายเป็นสินค้าส่งออกนอกประเทศแทน เนื่องจากมีต้นทุนต่ำกว่าการตั้งโรงงานรีไซเคิลเอง และลดความเสี่ยงของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผู้ที่ต้องรับกรรมอย่างไม่มีทางเลือกก็คงหนีไม่พ้นประเทศด้อยพัฒนาที่ตั้งความหวังว่าขยะพลาสติกเหล่านี้จะสร้างรายได้ให้กับประเทศ จากข้อมูลพบว่าในปี 2020 ประเทศที่นำเข้าขยะพลาสติกมากที่สุดล้วนแล้วแต่อยู่ในภูมิภาคเอเชียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตุรกี อินเดีย มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน
จีนเคยเป็นประเทศนำเข้าขยะพลาสติกสูงสุดแต่ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว
เดิมทีประเทศจีนนำเข้าขยะพลาสติกมากถึง 2 ใน 3 ของทั้งหมด ในช่วงที่ผ่านจะพบว่ามีโรงงานรีไซเคิลเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อกระบวนการรีไซเคิล เป็นสาเหตุทำให้จีนเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ทั้งมลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำ ไปจนถึงการปนเปื้อนของสารเคมีลงสู่ธรรมชาติ กระทบคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองจำนวนมาก จีนจำเป็นต้องดำเนินการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยในปี 2018 รัฐบาลจีนได้ห้ามนำเข้าขยะพลาสติกเด็ดขาด ทำให้อุตสาหกรรมรีไซเคิลเกือบทั้งหมดต้องปิดตัวลง แล้วขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลเหล่านั้นถูกส่งต่อไปที่ไหน? คำตอบคือประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กลายเป็นจุดหมายใหม่ของขยะพลาสติก หลายประเทศในภูมิภาคนี้มีโรงงานรีไซเคิลเพิ่มขึ้นจำนวนมาก แต่ก็ไม่ใช่ทุกแห่งจะมีประสิทธิภาพมากพอในการจัดการขยะอย่างมีมาตรฐาน
ขยะพลาสติกสร้างรายได้แต่แลกกับสุขภาพ
สารคดี Plastic. A Collective Suicide? จะพาทุกคนไปสำรวจผลกระทบจากขยะพลาสติกที่เกิดขึ้นกับหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในอินโดนีเซีย หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นพื้นที่รับภาระจากคนเกือบทั้งโลก ภาพของรถบรรทุกขนขยะพลาสติกมาเทกองรวมกันในหมู่บ้านวันละหลายคัน ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เจอแต่ขยะพลาสติกอยู่รอบตัว กลายเป็นภาพชินตาของคนในหมู่บ้านที่มองเห็นตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในทุกวัน คนเกือบทั้งหมู่บ้านแทบไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากดำรงชีวิตด้วยอาชีพคัดแยกขยะรีไซเคิล แม้จะสร้างรายได้แต่แต่ก็เป็นจำนวนเงินที่น้อยนิดและเทียบไม่ได้เลยกับคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง ขยะพลาสติกส่วนใหญ่ที่ถูกนามาทิ้งในหมู่บ้านแห่งนี้แทบไม่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และสุดท้ายก็จบลงด้วยการกลายเป็นเชื้อเพลิงที่สร้างมลพิษซ้ำเติมคุณภาพชีวิตของคุณในหมู่บ้านแย่ลงไปมากกว่าเดิม

ถึงแม้ว่าทั่วโลกจะตระหนักถึงผลกระทบจากขยะพลาสติกที่และหาทางแก้ไข แต่ทำไมปริมาณขยะพลาสติกถึงยังเพิ่มขึ้นทุกวัน อะไรเป็นอุปสรรคของปัญหานี้? สรุปแล้วพลาสติกมีประโยชน์หรือโทษมากกว่ากัน? มาหาคำตอบได้ในสารคดี Plastic. A Collective Suicide? บนแอป #TrueVisionsNow หรือสารคดีอื่นๆ ที่น่าสนใจทางทรูวิชั่นส์ True Explore Sci ช่อง 561
_____________________
ทรูวิชั่นส์นาว แม็กซ์: แพ็กเดียวจบ กีฬาสดมากที่สุดในไทย พร้อมความบันเทิงสุดพรีเมียม ดูฟรีแอปดัง iqiyi viu และwetv เพียงเดือนละ 2, 155บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว
ทรูวิชั่นส์นาว ไพร์ม: กีฬาอินเตอร์ ฮอลลีวูดจัดเต็ม! ดูฟรีแอปดัง iqiyi และ wetv เพียงเดือนละ449บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว
ทรูวิชั่นส์นาว พลัส: ซีรีส์สุดฟิน กีฬาสุดมัน! สายซีรีส์ห้ามพลาด เชียร์สด F1และฟุตบอลยูโรป ดูฟรีแอปดัง iqiyi เพียงเดือนละ 249 บาท สมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว
ทรูวิชั่นส์นาว ป๊อป: ดูไทยให้สุด สนุกทุกแมตช์! หนังดี ละครดัง วาไรตี้สุดฮิต กีฬาเดือด จัดเต็มเพื่อคนไทย เพียงเดือนละ 119 บาทสมัครเลยที่แอปทรูวิชั่นส์นาว
รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.truevisions.co.th/
- พลาสติกรักษ์โลก! ย่อยสลายได้ในน้ำทะเล นวัตกรรมใหม่หวังแก้ปัญหาขยะพลาสติก
- 5 มิ.ย.วันสิ่งแวดล้อมโลก ใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ เปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน
- พบเชื้อราชนิดใหม่ ย่อยสลายพลาสติกได้ ความหวังใหม่แก้ปัญหาขยะพลาสติก
- ปฏิวัติวัฒนธรรมการบริโภคทิ้งขว้าง สตาร์ทอัปในอังกฤษคืนชีพให้เต็นท์เก่าเป็นสินค้าใหม่
- ห้ามทิ้งทิชชู่เปียกลงชักโครก กฎหมายใหม่ใน “สเปน” ผู้ผลิตต้องรับผิดชอบทั้งหมด
- รวมพลังรัฐ–เอกชน–ชุมชน พลิกฟื้นระบบนิเวศทะเลสาบสงขลา หนุนเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน
- อันตรายจาก "สารหนู-ตะกั่ว" ในวัน “แม่น้ำกก” อาจเป็นพิษ ผลกระทบเหมืองแร่หายากในเมียนมา
ที่มาข้อมูล : True Vision Now
ที่มารูปภาพ : Envato
