โลกร้อนผลักสหรัฐฯ เข้าสู่ยุคฤดูร้อนมรณะ

โลกร้อนผลักสหรัฐฯ  เข้าสู่ยุคฤดูร้อนมรณะ

การวิเคราะห์ล่าสุดโดย Climate Central องค์กรวิจัยอิสระด้านสภาพภูมิอากาศ ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่ากังวลว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ฤดูร้อนในสหรัฐอเมริการ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตภูเขาทางตะวันตก (Mountain West) ที่ต้องเผชิญกับจำนวนวันที่อุณหภูมิสูงจัดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

ในปี 1970 เมืองส่วนใหญ่ยังไม่ประสบกับวันที่ร้อนจัดซึ่งได้รับผลกระทบจากการสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมมนุษย์ แต่ปัจจุบัน เมืองต่าง ๆ เผชิญกับวันร้อนจัดเฉลี่ยฤดูร้อนละ 6 วัน ขณะที่บางเมืองในเขตภูเขามีจำนวนวันร้อนจัดมากกว่าสองเท่า เช่น Grand Junction ในรัฐโคโลราโดมีถึง 18 วัน, Missoula ในรัฐมอนทานา 17 วัน, Las Vegas 14 วัน และ Salt Lake City 13 วัน

 

เมืองอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มคล้ายกัน ได้แก่ เดนเวอร์ อัลบูเคอร์คี ทวินฟอลส์ และทูซอน ที่มีวันร้อนจัดเฉลี่ยปีละ 11–12 วัน ทั้งนี้ แม้แต่เมืองเล็กอย่างเชเยนน์และรีโน ก็มีวันที่อุณหภูมิพุ่งสูงเกินค่าเฉลี่ยระดับประเทศ

สรุปข่าว

โลกร้อนทำฤดูร้อนสหรัฐฯ รุนแรงขึ้น เมืองภูเขาฝั่งตะวันตกเจอวันที่ร้อนจัดเพิ่มเท่าตัวนักวิจัยเตือน หากยังไม่ลดการปล่อยคาร์บอน วันอากาศร้อนรุนแรงจะเพิ่มขึ้นและเป็นภัยต่อชีวิตมากยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ล่าสุดโดย Climate Central องค์กรวิจัยอิสระด้านสภาพภูมิอากาศ ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่ากังวลว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ฤดูร้อนในสหรัฐอเมริการ้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเขตภูเขาทางตะวันตก (Mountain West) ที่ต้องเผชิญกับจำนวนวันที่อุณหภูมิสูงจัดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

ในปี 1970 เมืองส่วนใหญ่ยังไม่ประสบกับวันที่ร้อนจัดซึ่งได้รับผลกระทบจากการสะสมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกิจกรรมมนุษย์ แต่ปัจจุบัน เมืองต่าง ๆ เผชิญกับวันร้อนจัดเฉลี่ยฤดูร้อนละ 6 วัน ขณะที่บางเมืองในเขตภูเขามีจำนวนวันร้อนจัดมากกว่าสองเท่า เช่น Grand Junction ในรัฐโคโลราโดมีถึง 18 วัน, Missoula ในรัฐมอนทานา 17 วัน, Las Vegas 14 วัน และ Salt Lake City 13 วัน

 

เมืองอื่น ๆ ที่มีแนวโน้มคล้ายกัน ได้แก่ เดนเวอร์ อัลบูเคอร์คี ทวินฟอลส์ และทูซอน ที่มีวันร้อนจัดเฉลี่ยปีละ 11–12 วัน ทั้งนี้ แม้แต่เมืองเล็กอย่างเชเยนน์และรีโน ก็มีวันที่อุณหภูมิพุ่งสูงเกินค่าเฉลี่ยระดับประเทศ

ไคท์ลิน ทรูโด นักวิจัยจาก Climate Central กล่าวว่า หน้าร้อนในปัจจุบันร้อนกว่าสมัยของพ่อแม่หรือปู่ย่าของเราอย่างมาก และนี่คือสิ่งที่เราอยากให้ทุกคนตระหนัก พร้อมเตือนว่า ความร้อนคือภัยธรรมชาติที่คร่าชีวิตคนมากที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งในปี 2023 มีผู้เสียชีวิตจากความร้อนถึง 2,325 ราย สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หากเรายังไม่ลดการปล่อยคาร์บอนลง จำนวนวันที่ร้อนจัดก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับความเสี่ยงต่อสุขภาพและชีวิตของผู้คน

 

การเพิ่มขึ้นของวันที่ร้อนจัดสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ โดยในปี 2024 NOAA รายงานว่า ระดับคาร์บอนเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการบันทึก ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างต่อเนื่อง

 

ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงเป็นคำเตือนถึงผลกระทบจากโลกร้อน แต่ยังสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และเร่งเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างจริงจัง ก่อนที่ฤดูร้อนจะกลายเป็นฤดูอันตรายถาวรสำหรับคนรุ่นถัดไป

ที่มาข้อมูล : boisestatepublicradio.org

ที่มารูปภาพ : Reuters