จับตาพายุลูกที่ 6 จ่อเป็นโซนร้อนในอีก 24 ชม.

จับตาพายุลูกที่ 6 จ่อเป็นโซนร้อนในอีก 24 ชม.

หน่วยงานด้านสภาพอากาศฟิลิปปินส์รายงาน วันนี้ (16 ก.ค.68) ศูนย์กลางหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลฟิลิปปินส์ตอนกลางได้พัฒนาจนกลายเป็นดีเปรสชันเขตร้อนแล้ว โดยมีตำแหน่งศูนย์กลางล่าสุดอยู่ทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม.


ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดว่า ดีเปรสชันลูกนี้จะทวีกำลังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะกลายเป็นพายุโซนร้อนภายในคืนวันนี้หรือต่อเช้าวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ซึ่งถ้าหากเป็นพายุโซนร้อนแล้วจะมีชื่อว่า “วิภา” ตั้งโดยประเทศไทยและพายุลูกนี้คาดว่าจะทวีกำลังไปถึงระดับ “พายุไต้ฝุ่น”ในช่วงเย็นวันศุกร์ขณะเข้าใกล้พื้นที่ตอนเหนือของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์

สรุปข่าว

หย่อมความกดอากาศต่ำทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ได้พัฒนาเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงเป็นเป็นพายุโซนร้อนภายใน 24 ชั่วโมงข้างหน้า หากเป็นพายุโซนร้อนจะได้รับชื่อว่า “วิภา” และตอนนี้หลายพื้นที่ในภูมิภาคอย่างทางไต้หวันและตอนเหนือของฟิลิปปินส์ เริ่มจับตาสถานการณ์ของพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด

หน่วยงานด้านสภาพอากาศฟิลิปปินส์รายงาน วันนี้ (16 ก.ค.68) ศูนย์กลางหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลฟิลิปปินส์ตอนกลางได้พัฒนาจนกลายเป็นดีเปรสชันเขตร้อนแล้ว โดยมีตำแหน่งศูนย์กลางล่าสุดอยู่ทางด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์และกำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 10 กม./ชม.


ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นคาดว่า ดีเปรสชันลูกนี้จะทวีกำลังขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะกลายเป็นพายุโซนร้อนภายในคืนวันนี้หรือต่อเช้าวันพฤหัสบดี (17 ก.ค.) ซึ่งถ้าหากเป็นพายุโซนร้อนแล้วจะมีชื่อว่า “วิภา” ตั้งโดยประเทศไทยและพายุลูกนี้คาดว่าจะทวีกำลังไปถึงระดับ “พายุไต้ฝุ่น”ในช่วงเย็นวันศุกร์ขณะเข้าใกล้พื้นที่ตอนเหนือของเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์

ล่าสุด ยังไม่มีการออกประกาศเตือนภัยบนแผ่นดินในขณะนี้ แต่ขอให้ประชาชนในพื้นที่ไต้หวัน, หมู่เกาะบาไตเนสและบาบูยันรวมถึงภาคเหนือของเกาะลูซอนติดตามความเคลื่อนไหวของพายุลูกนี้อย่างใกล้ชิด


ส่วนเส้นทางของพายุนั้น ขณะนี้มีความไม่แน่นอนในการคาดการณ์เส้นทาง เนื่องจากข้อมูลจากโมเดล GFS และ ECMWF ยังมีความเห็นต่างกัน โดยประมาณครึ่งหนึ่งของโมเดลคาดว่าพายุอาจเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกเฉียงเหนือมากขึ้น ส่งผลให้เข้าใกล้“ไต้หวัน”มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งอาจมีผลต่อความรุนแรงของพายุในระยะต่อไป 

อย่างไรก็ตาม พายุจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมบ้านเรามีกำลังแรงขึ้นดังกล่าว ประกอบกับอาจมีแนวร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณภาคเหนือตอนบน ทำให้ภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ได้อีกครั้งในพื้นที่ดังกล่าว ส่วนภาคตะวันออกด้านรับมรสุม (ระยอง จันทบุรี ตราด) และภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ระนอง พังงา ภูเก็ต) จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง คลื่นลมมีกำลังแรง ต้องเตือนชาวเรือเป็นพิเศษ เรือเล็กงดออกจากฝั่ง

ที่มาข้อมูล : JTWC

ที่มารูปภาพ : Himawari