
สวนพฤกษศาสตร์ Kew Gardens ใจกลางกรุงลอนดอน เปิดตัว "สวนคาร์บอน" (Carbon Garden) แห่งใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าชมเกี่ยวกับบทบาทของคาร์บอนในระบบนิเวศ และแนวทางที่มนุษย์สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้
สวนแห่งนี้จัดแสดงความสำคัญของคาร์บอนในสิ่งมีชีวิต พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงอันตรายจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิโลกเฉลี่ยสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก ขณะที่รายงานจากสถาบันพลังงาน (Energy Institute) ยังระบุว่า การปล่อย CO₂ จากภาคพลังงานทั่วโลกในปี 2024 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยังคงเพิ่มขึ้น
สวนคาร์บอนแห่งนี้มีพรรณไม้กว่า 6,500 ชนิด และต้นไม้ใหม่ 35 ต้น พร้อมด้วยอาคารศาลากลาง (Pavilion) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโครงสร้างของเห็ดรา โดยพื้นที่ถูกออกแบบให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้กระบวนการสำคัญ เช่น การสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งเป็นกลไกที่พืชดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและเปลี่ยนเป็นสารอินทรีย์
สรุปข่าว
สวนพฤกษศาสตร์ Kew Gardens ใจกลางกรุงลอนดอน เปิดตัว "สวนคาร์บอน" (Carbon Garden) แห่งใหม่ ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าชมเกี่ยวกับบทบาทของคาร์บอนในระบบนิเวศ และแนวทางที่มนุษย์สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้
สวนแห่งนี้จัดแสดงความสำคัญของคาร์บอนในสิ่งมีชีวิต พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงอันตรายจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ อุณหภูมิโลกเฉลี่ยสูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก ขณะที่รายงานจากสถาบันพลังงาน (Energy Institute) ยังระบุว่า การปล่อย CO₂ จากภาคพลังงานทั่วโลกในปี 2024 พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์จากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลที่ยังคงเพิ่มขึ้น
สวนคาร์บอนแห่งนี้มีพรรณไม้กว่า 6,500 ชนิด และต้นไม้ใหม่ 35 ต้น พร้อมด้วยอาคารศาลากลาง (Pavilion) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโครงสร้างของเห็ดรา โดยพื้นที่ถูกออกแบบให้ผู้เข้าชมสามารถเรียนรู้กระบวนการสำคัญ เช่น การสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งเป็นกลไกที่พืชดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและเปลี่ยนเป็นสารอินทรีย์
หนึ่งในไฮไลต์ของพื้นที่คือ "สวนแห้ง" (Dry Garden) ที่รวบรวมพืชทนแล้ง เช่น ลาเวนเดอร์ เพื่อเตรียมรับมือกับสภาพอากาศที่คาดว่าจะร้อนและแห้งแล้งมากขึ้นในอนาคต โดยมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2050 กรุงลอนดอนจะมีภูมิอากาศคล้ายกับเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซึ่งหมายถึงฤดูร้อนที่ร้อนและแห้งแล้งกว่าปัจจุบันอย่างมาก
ทีมนักออกแบบได้ใช้เวลานานถึง 4 ปีครึ่งในการพัฒนาสวนแห่งนี้ โดยมีการคัดเลือกพันธุ์ไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง และติดตั้งกล้องส่องทางไกลให้ผู้เข้าชมสามารถชมต้นโอ๊กขนาดใหญ่ใกล้ทางเข้าสวนได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งต้นไม้ต้นนี้ปัจจุบันสามารถกักเก็บคาร์บอนได้ถึง 25 ตัน
ด้านนักวิจัยระดับปริญญาเอกจาก Kew Gardens ซึ่งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับบทบาทของพืชในการเก็บคาร์บอน ระบุว่า การคืนพืชกลับสู่พื้นที่เดิมที่เคยมีอยู่เดิม และการหยุดการตัดไม้ทำลายป่า จะเป็นแนวทางสำคัญในการชะลอการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แม้พืชจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ก็เป็นส่วนสำคัญของทางออกที่ครอบคลุม ควบคู่กับการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล
ผู้ดูแลการออกแบบสวนแห่งนี้ยังหวังว่า สวนคาร์บอนจะเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนทั่วไปหันมาใส่ใจการเลือกพืชพันธุ์ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศอนาคต พร้อมส่งเสริมให้ปล่อยให้บางส่วนของสวนเติบโตตามธรรมชาติเพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นแนวทางที่เอื้อต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
- โลกกำลังป่วยหนัก โรคจากสัตว์เสี่ยงระบาด นักวิจัยชี้ต้นเหตุคือเราเอง
- ภัยธรรมชาติรุนแรงหนักขึ้น เพราะโลกร้อนจากน้ำมือมนุษย์
- โลกร้อนเผา Great Lakes ร้อนจัด ปลาหาย เห็บบุก ทำชีวิตชาวสหรัฐฯ ปั่นป่วน
- ทุกประเทศต้องเอาจริงเรื่องแก้ไขปัญหาโลกร้อน ไม่เช่นนั้นอาจถูกฟ้องร้องได้
- โลกร้อนน้ำทะเลสูง กทม.-สมุทรปราการเสี่ยงจมน้ำ
- น้ำทะเลกลืนวัด! “วัดขุนสมุทรจีน” รอวันจมหาย จาก 76 ไร่เหลือ 5 ไร่สุดท้าย
- โลกใกล้ถึงจุดเปลี่ยน! พลังงานสะอาดครองอนาคต UN ชี้พลังงานฟอสซิลเริ่มไร้ที่ยืน
