“ปักกิ่ง” จมบาดาล ฝนตกหนักทุบสถิติ สั่งอพยพนับแสนราย

“ปักกิ่ง” จมบาดาล  ฝนตกหนักทุบสถิติ  สั่งอพยพนับแสนราย

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเปิดเผยว่า ประเทศกำลังเผชิญ "ความสูญเสียอย่างหนัก" จากอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในกรุงปักกิ่งและอีก 3 มณฑล ได้แก่ เหอเป่ย จี๋หลิน และซานตง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเร่งปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในกรุงปักกิ่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 30 รายแล้ว และมีประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 80,000 คน หลังเผชิญฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วัน โดยในวันจันทร์ (28 ก.ค.) เพียงวันเดียว ปักกิ่งมีปริมาณฝนสูงสุดถึง 543.4 มิลลิเมตร ซึ่งเกือบเท่ากับค่าเฉลี่ยปริมาณฝนทั้งปีของเมืองหลวงจีนที่อยู่ที่ราว 600 มิลลิเมตร

กรุงปักกิ่งได้ประกาศเตือนภัยฝนตกหนักและน้ำท่วมระดับสูงสุด เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยฝนเริ่มตกตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (23 ก.ค.) และรุนแรงมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก

สรุปข่าว

กรุงปักกิ่งและภาคเหนือของจีนกำลังเผชิญฝนตกหนักในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ปริมาณน้ำฝนในบางพื้นที่เกือบเท่ากับทั้งปีภายในเวลาไม่กี่วัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 30 ราย และอพยพประชาชนแล้วนับแสนคน ท่ามกลางคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ว่าภัยพิบัติครั้งนี้สะท้อนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนเปิดเผยว่า ประเทศกำลังเผชิญ "ความสูญเสียอย่างหนัก" จากอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในกรุงปักกิ่งและอีก 3 มณฑล ได้แก่ เหอเป่ย จี๋หลิน และซานตง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับเร่งปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุอุทกภัยในกรุงปักกิ่งเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 30 รายแล้ว และมีประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แล้วกว่า 80,000 คน หลังเผชิญฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วัน โดยในวันจันทร์ (28 ก.ค.) เพียงวันเดียว ปักกิ่งมีปริมาณฝนสูงสุดถึง 543.4 มิลลิเมตร ซึ่งเกือบเท่ากับค่าเฉลี่ยปริมาณฝนทั้งปีของเมืองหลวงจีนที่อยู่ที่ราว 600 มิลลิเมตร

กรุงปักกิ่งได้ประกาศเตือนภัยฝนตกหนักและน้ำท่วมระดับสูงสุด เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยฝนเริ่มตกตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (23 ก.ค.) และรุนแรงมากขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก

หนึ่งในเหตุการณ์ที่น่ากลัวที่สุดเกิดขึ้นที่ เมืองมี่หยวิน (Miyun) ชานกรุงปักกิ่ง เมื่อเกิดดินถล่มถล่มใส่บ้าน 2 ชั้นจนเกิดรูโหว่ใหญ่บนชั้น 2 ดินปริมาณกว่า 3 ลูกบาศก์เมตรพุ่งเข้าบ้าน ฝังเตียงในห้องนอนไว้ใต้กองโคลนและหินจำนวนมาก โชคดีไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่ก็สะท้อนความรุนแรงของภัยพิบัติครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน

ทางการมี่หยวินเผยว่า ได้อพยพประชาชนมากกว่า 4,400 คนออกจากหมู่บ้านต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและดินถล่มแล้ว โดยแม่น้ำเฉา (Chao River) ที่ไหลผ่านพื้นที่ได้ล้นตลิ่ง เข้าท่วมถนนและพื้นที่การเกษตร ทำให้พืชผล โดยเฉพาะไร่ข้าวโพด เสียหายเป็นวงกว้าง

ศูนย์อุตุนิยมวิทยากลางของจีน เตือนเพิ่มเติมว่า ภาคเหนือของจีนจะยังเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่องอีกอย่างน้อย 3 วัน ทำให้ความเสี่ยงของน้ำท่วมและดินถล่มยังคงอยู่ในระดับสูง

นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศเตือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีหลัง เช่นการที่พื้นที่แห้งแล้งอย่างภาคเหนือของจีนมีฝนตกหนักและถี่ขึ้น สะท้อนถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อนอย่างชัดเจน เมื่ออุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้น วัฏจักรน้ำก็เปลี่ยนแปลงไป ทำให้บางพื้นที่เจอกับฝนตกหนักผิดปกติ ขณะที่พื้นที่อื่นอาจเผชิญกับภัยแล้งรุนแรง

อุทกภัยในจีนครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าแค่ภัยธรรมชาติ หากแต่เป็นคำเตือนที่ดังขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเรากำลังเข้าสู่ยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบแบบเฉียบพลัน และไม่มีที่ไหนในโลกที่ปลอดภัยจากมันอีกต่อไป

ที่มาข้อมูล : Reuters

ที่มารูปภาพ : Reuters