
ธารน้ำแข็งบนเทือกเขา Cilo ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีกำลังละลายอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริเวณยอดเขาซึ่งเคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งอย่างหนาแน่น กลับเหลือเพียงโขดหินและหญ้า ขณะที่ธารน้ำแข็งที่ยังเหลืออยู่ก็กำลังหลุดลอยลงมาตามกระแสน้ำ ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการละลายที่รวดเร็วเกินคาด
Mount Cilo เป็นภูเขาสูง 4,135 เมตรในจังหวัด Hakkari ใกล้ชายแดนอิรัก และเป็นแหล่งธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกีรองจาก Mount Ararat นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Yuzuncu Yil ระบุว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา พื้นที่หิมะและน้ำแข็งที่ต่อเนื่องกันในภูมิภาคนี้ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง และกระบวนการละลายกำลังเกิดขึ้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ยังไม่มีกลยุทธ์ปกป้องพื้นที่น้ำแข็งได้ครอบคลุมทั้งหมด
สรุปข่าว
ธารน้ำแข็งบนเทือกเขาในตุรกีกำลังละลายอย่างรวดเร็วจากโลกร้อน โดยลดลงไปแล้วเกือบ 50% ในรอบ 40 ปี การท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิที่พุ่งสูงถึง 50.5°C ยิ่งเร่งการละลายของน้ำแข็งและเพิ่มความเสี่ยงต่อความปลอดภัย หากแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ตุรกีอาจเผชิญภาวะแล้งและทะเลทรายครอบคลุมถึง 88% ของประเทศภายในสิ้นศตวรรษนี้
ธารน้ำแข็งบนเทือกเขา Cilo ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกีกำลังละลายอย่างรวดเร็วจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริเวณยอดเขาซึ่งเคยปกคลุมด้วยหิมะและน้ำแข็งอย่างหนาแน่น กลับเหลือเพียงโขดหินและหญ้า ขณะที่ธารน้ำแข็งที่ยังเหลืออยู่ก็กำลังหลุดลอยลงมาตามกระแสน้ำ ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการละลายที่รวดเร็วเกินคาด
Mount Cilo เป็นภูเขาสูง 4,135 เมตรในจังหวัด Hakkari ใกล้ชายแดนอิรัก และเป็นแหล่งธารน้ำแข็งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของตุรกีรองจาก Mount Ararat นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย Yuzuncu Yil ระบุว่า ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา พื้นที่หิมะและน้ำแข็งที่ต่อเนื่องกันในภูมิภาคนี้ลดลงถึงครึ่งหนึ่ง และกระบวนการละลายกำลังเกิดขึ้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ยังไม่มีกลยุทธ์ปกป้องพื้นที่น้ำแข็งได้ครอบคลุมทั้งหมด
ในหลายประเทศแถบเทือกเขาแอลป์มีการทดลองคลุมธารน้ำแข็งด้วยผ้าใบสีขาวเพื่อชะลอการละลาย แต่ในตุรกี พื้นที่และทรัพยากรจำกัดเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้ ธารน้ำแข็งที่ละลายไม่ได้เพียงส่งผลต่อทัศนียภาพทางธรรมชาติ แต่ยังเป็นภัยต่อความปลอดภัยของนักเดินเขา โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากการถูกก้อนน้ำแข็งหล่นทับแล้วในปี 2023
ภูมิภาคนี้ซึ่งครั้งหนึ่งเคยได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกับกลุ่มติดอาวุธ PKK กลับมาเป็นจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวในช่วงที่สถานการณ์สงบลง และได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 2020 อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงที่สะดวกขึ้นและจำนวนผู้เยี่ยมชมที่เพิ่มขึ้นกลับยิ่งเร่งการละลายของน้ำแข็ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยห่างไกลและปราศจากถนนมาก่อน
รายงานขององค์การสหประชาชาติเตือนว่า พื้นที่กว่า 88% ของตุรกีมีความเสี่ยงต่อการกลายเป็นทะเลทราย ภายในสิ้นศตวรรษนี้ อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นถึง 5–6 องศาเซลเซียส และปริมาณน้ำฝนจะลดลงถึง 30% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงปี 1961–1990 การสูญเสียธารน้ำแข็งจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์เท่านั้น แต่ยังเป็นการคุกคามแหล่งน้ำในระยะยาว และส่งสัญญาณถึงวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ใกล้ตัวมากกว่าที่คิด
- เวียดนามใช้ “นมแม่” หนุนเป้าหมายลดโลกร้อน
- ไฟป่ากระหน่ำกรีซ-ตุรกี หลังอุณหภูมิพุ่งเกิน 45 องศาฯ
- เมืองชายฝั่งเสี่ยงจม โลกร้อน-น้ำทะเลสูง-ตึกทรุด ต้นเหตุคุกคามเมืองอเล็กซานเดรีย
- พรมจากเส้นผมมนุษย์ กู้วิกฤตภัยแล้งในชิลี
- ลอนดอนเปิดตัว “สวนคาร์บอน” สอนบทเรียนสำคัญจาก “ธรรมชาติ”
- โลกกำลังป่วยหนัก โรคจากสัตว์เสี่ยงระบาด นักวิจัยชี้ต้นเหตุคือเราเอง
- ภัยธรรมชาติรุนแรงหนักขึ้น เพราะโลกร้อนจากน้ำมือมนุษย์
