
นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมรับมือพายุ 2 ลูกใหญ่ที่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร
พายุลูกแรกในเดือนกันยายน: เสี่ยงกระทบภาคอีสานตอนล่าง
คาดว่าพายุลูกแรกจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางของประเทศเวียดนามในช่วงเดือนกันยายน โดยมีความรุนแรงใกล้เคียงกับพายุโซนร้อน “วิภา” ในอดีต หากพายุเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง จะส่งผลโดยตรงต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามเพียง 200 กิโลเมตร
ในกรณีที่ภาคเหนือตอนล่างยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำเหนือจะไหลลงมาสมทบกับพื้นที่ภาคกลาง เช่น สิงห์บุรีและอ่างทอง หากเกิดพายุลูกที่สองซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าว อาจก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงคล้ายกับปี 2538 ที่เคยมีระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงถึง 2.27 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
สรุปข่าว
นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่า ประเทศไทยเตรียมรับมือพายุ 2 ลูกใหญ่ที่มีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงเดือนกันยายนและตุลาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร
พายุลูกแรกในเดือนกันยายน: เสี่ยงกระทบภาคอีสานตอนล่าง
คาดว่าพายุลูกแรกจะเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ตอนกลางของประเทศเวียดนามในช่วงเดือนกันยายน โดยมีความรุนแรงใกล้เคียงกับพายุโซนร้อน “วิภา” ในอดีต หากพายุเคลื่อนขึ้นฝั่งที่เมืองดานัง จะส่งผลโดยตรงต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งเวียดนามเพียง 200 กิโลเมตร
ในกรณีที่ภาคเหนือตอนล่างยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำเหนือจะไหลลงมาสมทบกับพื้นที่ภาคกลาง เช่น สิงห์บุรีและอ่างทอง หากเกิดพายุลูกที่สองซ้ำในช่วงเวลาดังกล่าว อาจก่อให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงคล้ายกับปี 2538 ที่เคยมีระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สูงถึง 2.27 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
พายุลูกที่ 2 ในเดือนตุลาคม: จับตาน้ำท้ายเขื่อน-เสี่ยงล้นตลิ่งภาคกลาง
พายุลูกที่สองคาดว่าจะเคลื่อนเข้าช่วงเดือนตุลาคม โดยจะทำให้ฝนตกหนักบริเวณท้ายเขื่อนหลายแห่งในภาคกลาง กรมชลประทานจึงเตรียมแผน “จราจรน้ำ” เพื่อบริหารการระบายน้ำทั้งสองฝั่ง ได้แก่ ฝั่งตะวันตกที่จะระบายน้ำลงแม่น้ำท่าจีน และฝั่งตะวันออกที่จะระบายน้ำลงคลองชัยนาท–ป่าสัก ช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นช่วงวิกฤตที่ต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำล้นตลิ่งและเกิดน้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง
ส่วนกรุงเทพมหานครเองก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะในเดือนตุลาคมซึ่งอาจเผชิญสถานการณ์ “3 น้ำ” พร้อมกัน ได้แก่
- น้ำเหนือ ที่ไหลลงมาจากภาคเหนือ
- น้ำฝน จากพายุที่ตกหนักเฉพาะพื้นที่ หรือ “เรนบอมบ์” (Rain Bomb)
- น้ำทะเลหนุน จากปรากฏการณ์ตามฤดูกาล
ด้วยผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้เกิดฝนตกหนักเฉพาะจุดมากขึ้นเรื่อย ๆ และกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจาก “เรนบอมบ์” มาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564 โดยนายชวลิตเน้นย้ำว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งวางแผนล่วงหน้า ติดตามสถานการณ์พายุอย่างใกล้ชิด พร้อมประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาและกรมชลประทาน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำซ้อนในช่วงปลายปีนี้
- ส่องพายุ 2 ลูกในมหาสมุทร “ก๋อมัย” มุ่งจีน “กรอซา” มุ่งญี่ปุ่น
- ต้นส.ค. ฝนลดลง ทั่วไทยยังปลอดพายุ
- ต้นส.ค.ทั่วไทยฝนลดลง ยกเว้นอีสาน-ตะวันออก
- พยากรณ์อากาศวันนี้ 30 กรกฎาคม 2568 เตือนระวังฝนตกหนัก กทม. มีฝน 70% ของพื้นที่
- ปภ.เตือน! "แม่น้ำโขง-แม่น้ำกกล้นตลิ่ง" ขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง
- “ปักกิ่ง” จมบาดาล ฝนตกหนักทุบสถิติ สั่งอพยพนับแสนราย
- พื้นที่เสี่ยงภัยฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยวันที่ 29 ก.ค. 68
