รู้จัก "พายุหมุนเขตร้อน" เดือนไหน? มีสถิติเคลื่อนเข้ามามากที่สุดในรอบปี

รู้จัก "พายุหมุนเขตร้อน" เดือนไหน? มีสถิติเคลื่อนเข้ามามากที่สุดในรอบปี

รู้จัก พายุหมุนเขตร้อน 

พายุหมุนเขตร้อน มีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด เช่น พายุที่เกิดในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า ไซโคลน (CYCLONE) เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก และทางด้านตะวันตกของเม็กซิโกเรียกว่า เฮอร์ริเคน (HURRICANE) เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ 

และทะเลจีนใต้เรียกว่า ไต้ฝุ่น (TYPHOON) พายุหมุนเขตร้อนที่มีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทย ส่วนใหญ่มีแหล่งกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิก เหนือด้านตะวันตกและทะเลจีนใต้ ซึ่งมีการแบ่งเกณฑ์ความรุนแรงของพายุตามข้อตกลงระหว่างประเทศ 

สรุปข่าว

"พายุหมุนเขตร้อน" ปภ. เผย มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคมของทุกปี จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรงและคลื่นสูง เปิดวิธีปฏิบัติตน ทั้งก่อน และขณะเกิดพายุหมุนเขตร้อน

รู้จัก พายุหมุนเขตร้อน 

พายุหมุนเขตร้อน มีชื่อเรียกต่างกันไปตามแหล่งกำเนิด เช่น พายุที่เกิดในอ่าวเบงกอลและมหาสมุทรอินเดียเรียกว่า ไซโคลน (CYCLONE) เกิดในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก และทางด้านตะวันตกของเม็กซิโกเรียกว่า เฮอร์ริเคน (HURRICANE) เกิดในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก มหาสมุทรแปซิฟิกใต้ 

และทะเลจีนใต้เรียกว่า ไต้ฝุ่น (TYPHOON) พายุหมุนเขตร้อนที่มีอิทธิพลต่อลมฟ้าอากาศของประเทศไทย ส่วนใหญ่มีแหล่งกำเนิดในมหาสมุทรแปซิฟิก เหนือด้านตะวันตกและทะเลจีนใต้ ซึ่งมีการแบ่งเกณฑ์ความรุนแรงของพายุตามข้อตกลงระหว่างประเทศ 

ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางพายุดังนี้

- พายุดีเปรสชั่น ความเร็วลมไม่เกิน 33 นอต (61 กม./ชม.)
- พายุโซนร้อน ความเร็วลม 34 - 63 นอต (62 - 117 กม./ชม.)
- ไต้ฝุ่น ความเร็วลม 64 นอตขึ้นไป (118 กม./ชม.ขึ้นไป)

ประเทศไทย ตั้งอยู่ระหว่างบริเวณแหล่งกำเนิดของพายุหมุนเขตร้อนทั้งสองด้าน ด้านตะวันออกคือมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้ ส่วนด้านตะวันตกคืออ่าวเบงกอล และทะเลอันดามัน โดยพายุมีโอกาสเคลื่อนจากมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้เข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออก มากกว่าทางตะวันตก ปกติประเทศไทย จะมีพายุเคลื่อนผ่านเข้ามาได้โดยเฉลี่ยประมาณ 3 - 4 ลูกต่อปี 

บริเวณที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุด คือภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะทางตอนบนของภาค ในระยะต้นปีระหว่างเดือนมกราคมถึงมีนาคม เป็นช่วงที่ประเทศไทยปลอดจากอิทธิพลของพายุ ต่อมาเดือนเมษายนเป็นเดือนแรกของปี ที่พายุเริ่มเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางภาคใต้ แต่มีโอกาสน้อยและเคยเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในรอบ 50 ปี (พ.ศ.2494-2543)

พายุเริ่มมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมโดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นพายุที่เคลื่อนมาจากด้านตะวันตก เข้าสู่ประเทศไทยตอนบน และตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป พายุส่วนใหญ่จะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยทางด้านตะวันออก โดยช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม พายุยังคงเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบน ซึ่งบริเวณตอนบนของภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่ที่พายุมีโอกาสเคลื่อนผ่านเข้ามามากที่สุด และเดือนกันยายนถึงตุลาคม พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้ามาได้ในทุกพื้นที่ 

เริ่มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้ตั้งแต่เดือนกันยายน ในสองเดือนนี้เป็นระยะที่พายุมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยได้มาก โดยเฉพาะเดือนตุลาคม มีสถิติเคลื่อนเข้ามามากที่สุดในรอบปี สำหรับช่วงปลายปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พายุจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบนได้น้อยลง และมีโอกาสเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้มากขึ้น เมื่อถึงเดือนธันวาคมพายุมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าสู่ภาคใต้เท่านั้น 

โดยไม่มีพายุเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยตอนบนอีก เนื่องจากในช่วงปลายปีบริเวณความกดอากาศสูง จากประเทศมองโกเลียและจีน นำความหนาวเย็นลงมาสู่ละติจูดต่ำกว่า ระบบอากาศในช่วงนี้จึงไม่เอื้อให้พายุที่เกิดขึ้นเหนือทะเล เคลื่อนตัวขึ้นสู่บริเวณประเทศไทยตอนบน

ทางเดินพายุหมุนเขตร้อน


กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดข้อมูล พายุหมุนเขตร้อน มีแนวโน้มเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเดือนสิงหาคม - ธันวาคมของทุกปี ซึ่งพื้นที่ที่พายุเคลื่อนตัวผ่าน จะทำให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรงและคลื่นสูง  ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้

วิธีปฏิบัติตน ทั้งก่อน และขณะเกิดพายุหมุนเขตร้อน

เพื่อให้ประชาชนเตรียมรับมือภัยธรรมชาติ ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่ออย่างถูกต้อง

ก่อนพายุมา

- ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด
- เตรียมอุปกรณ์ในการยังชีพให้พร้อม
- ตรวจสอบความแข็งแรงของบ้าน / อาคารและบริเวณรอบบ้าน
- วางแผนการอพยพ หากอยู่ในพื้นที่เสี่ยง

ขณะเกิดพายุ และอยู่ในอาคาร

- ปิดประตู - หน้าต่างให้มิดชิด
- ห้ามอยู่บริเวณระเบียงหรือดาดฟ้า
- ถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด
- งดใช้เครื่องมือสื่อสาร
- ออกห่างจากวัตถุที่เป็นสื่อไฟฟ้า อาทิ ลวด โลหะ แนวรั้วบ้าน

ขณะเกิดพายุ และอยู่กลางแจ้ง

- อยู่ให้ห่างจากสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคง รวมถึงต้นไม้ และเสาไฟฟ้า
- รีบหาที่หลบภัยให้เร็วที่สุด หากขับรถอยู่ให้รีบหาที่จอด และหลีกเลี่ยงบริเวณเสี่ยงน้ำท่วม
- ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารโดยเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล : ปภ./กรมอุตุฯ

ที่มารูปภาพ : AFP