
ราว 56 ล้านปีก่อน โลกเคยเผชิญวิกฤติภาวะโลกร้อนอย่างฉับพลันที่เรียกว่า Paleocene–Eocene Thermal Maximum (PETM) ส่งผลให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูง ระบบนิเวศปั่นป่วน และสัตว์หลายชนิดต้องหาวิธีเอาตัวรอด งานวิจัยล่าสุดค้นพบหลักฐานว่าหนึ่งในนักล่าโบราณได้ปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
สัตว์นักล่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วชื่อ Dissacus praenuntius ขนาดราวหมาป่า เดิมทีเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก แต่จากการวิเคราะห์ร่องรอยบนฟันฟอสซิลพบว่า เมื่อสภาพอากาศร้อนขึ้นและเหยื่อลดลง มันเริ่มกินสิ่งที่แข็งและเปราะมากขึ้น เช่น กระดูก ลักษณะนี้คล้ายกับพฤติกรรมของสิงโตหรือไฮยีนาในปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนดังกล่าวยังมาพร้อมกับขนาดร่างกายที่เล็กลง สะท้อนว่าการขาดแคลนอาหารเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่าความร้อนเพียงอย่างเดียว
สรุปข่าว
นักล่าดึกดำบรรพ์ หรือ Dissacus ปรับตัวสู้โลกร้อน ปรับพฤติกรรมจากกินเนื้อเป็นหลัก มาแทะกระดูกเพื่อความอยู่รอดในช่วงโลกร้อนรุนแรง
การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่า ความยืดหยุ่นด้านอาหาร คือกุญแจสำคัญของการปรับตัวเมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน แม้จะปรับตัวได้เก่ง แต่ Dissacus ก็สูญพันธุ์ไปในที่สุด เป็นบทเรียนว่าแม้ผู้รอดในอดีตก็ไม่อาจต้านทานการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ตลอดไป
ราว 56 ล้านปีก่อน โลกเคยเผชิญวิกฤติภาวะโลกร้อนอย่างฉับพลันที่เรียกว่า Paleocene–Eocene Thermal Maximum (PETM) ส่งผลให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูง ระบบนิเวศปั่นป่วน และสัตว์หลายชนิดต้องหาวิธีเอาตัวรอด งานวิจัยล่าสุดค้นพบหลักฐานว่าหนึ่งในนักล่าโบราณได้ปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม
สัตว์นักล่าที่สูญพันธุ์ไปแล้วชื่อ Dissacus praenuntius ขนาดราวหมาป่า เดิมทีเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก แต่จากการวิเคราะห์ร่องรอยบนฟันฟอสซิลพบว่า เมื่อสภาพอากาศร้อนขึ้นและเหยื่อลดลง มันเริ่มกินสิ่งที่แข็งและเปราะมากขึ้น เช่น กระดูก ลักษณะนี้คล้ายกับพฤติกรรมของสิงโตหรือไฮยีนาในปัจจุบัน การปรับเปลี่ยนดังกล่าวยังมาพร้อมกับขนาดร่างกายที่เล็กลง สะท้อนว่าการขาดแคลนอาหารเป็นปัจจัยสำคัญมากกว่าความร้อนเพียงอย่างเดียว
เหตุการณ์ PETM กินเวลาประมาณ 200,000 ปี และสร้างความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงต่อระบบนิเวศ ทั้งในด้านการหายไปของเหยื่อ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมนักล่า และการปรับตัวของสัตว์ที่ต้องอาศัยความยืดหยุ่นด้านอาหาร นักวิจัยชี้ว่าการมีความสามารถในการกินอาหารที่หลากหลาย คือกุญแจสำคัญของการอยู่รอดในยุคที่สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
แม้ Dissacus จะปรับตัวเก่งและอยู่รอดมาได้นานกว่า 15 ล้านปี แต่สุดท้ายก็สูญพันธุ์ไปเพราะการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าภาวะโลกร้อนในอดีตทำให้ระบบนิเวศพลิกผันอย่างรุนแรง และสะท้อนให้เห็นความท้าทายที่สัตว์ยุคปัจจุบัน รวมถึงมนุษย์ อาจต้องเผชิญ หากโลกยังร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเรียนรู้จากอดีตจึงเป็นบทเรียนสำคัญในการเตรียมอนาคตท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน
- ชาวอินเดีย 96% ยืนยันโลกร้อนจริง กว่า 30% คิดย้ายถิ่นหนีภัยพิบัติ
- โลกจมขยะพลาสติก ยุโรปเอาจริง แต่ไทยยังเทรวมเป็นภูเขาขยะ
- โลกร้อนทำน้ำแข็งละลาย เสี่ยงปลุกภูเขาไฟระเบิดถี่ขึ้น!
- วิกฤตกล้วยโลก เสี่ยงกลายเป็นผลไม้หายาก
- อุตุฯ เตือนปลายส.ค.-ก.ย. ฝนชุกที่สุดในรอบปี
- ไข้เลือดออกระบาดหนัก โลกร้อนยิ่งเร่งความรุนแรง
- วิกฤตพลาสติก ทั่วโลกยังไม่เห็นทางออก หลังการเจรจาที่เจนีวาล่ม!
ที่มาข้อมูล : Scitechdaily.com
ที่มารูปภาพ : Scitechdaily
