
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตมนุษย์ในหลายมิติ โดยเฉพาะประเด็น “ความเครียดจากความร้อน” ที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้งหรือแม้แต่งานในร่มที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ปัจจุบันความถี่และความรุนแรงของคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้แรงงานต้องเผชิญทั้งปัญหาด้านสุขภาพและการสูญเสียผลิตภาพการทำงาน
งานวิจัยและหลักฐานตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าความร้อนจัดส่งผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพของแรงงาน โดยพบว่าคุณภาพแรงงานจะลดลงร้อยละ 2–3 ในทุก ๆ หนึ่งองศาเซลเซียสที่อุณหภูมิสูงกว่า 20 องศา นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงยังนำไปสู่ความเสี่ยงทางสุขภาพมากมาย เช่น โรคลมแดด ภาวะขาดน้ำ โรคไต และความผิดปกติทางระบบประสาท ซึ่งล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของแรงงานและครอบครัว
สรุปข่าว
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้คลื่นความร้อนรุนแรง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพแรงงานทั้งกลางแจ้งและในร่ม แรงงานจะสูญเสียคุณภาพการทำงาน 2–3% ต่อทุก 1°C ที่สูงกว่า 20°C และเสี่ยงโรคต่าง ๆ เช่น ลมแดด ขาดน้ำ ไตวาย และความผิดปกติทางระบบประสาท โดยในปี 2024 ถูกบันทึกว่าร้อนที่สุดในประวัติการณ์ เป็นสัญญาณเตือนว่าต้องเร่งดำเนินการปกป้องแรงงานจากความเครียดจากความร้อนทั่วโลก
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตมนุษย์ในหลายมิติ โดยเฉพาะประเด็น “ความเครียดจากความร้อน” ที่เกิดขึ้นในสถานที่ทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานกลางแจ้งหรือแม้แต่งานในร่มที่มีสภาพอากาศร้อนจัด ปัจจุบันความถี่และความรุนแรงของคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้แรงงานต้องเผชิญทั้งปัญหาด้านสุขภาพและการสูญเสียผลิตภาพการทำงาน
งานวิจัยและหลักฐานตลอดกว่า 50 ปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่าความร้อนจัดส่งผลโดยตรงต่อทั้งสุขภาพและประสิทธิภาพของแรงงาน โดยพบว่าคุณภาพแรงงานจะลดลงร้อยละ 2–3 ในทุก ๆ หนึ่งองศาเซลเซียสที่อุณหภูมิสูงกว่า 20 องศา นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงยังนำไปสู่ความเสี่ยงทางสุขภาพมากมาย เช่น โรคลมแดด ภาวะขาดน้ำ โรคไต และความผิดปกติทางระบบประสาท ซึ่งล้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว และทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจของแรงงานและครอบครัว
ผลกระทบจากคลื่นความร้อนในปัจจุบันครอบคลุมประชากรกว่าครึ่งโลก โดยแรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือแรงงานใช้แรงงานหนักในภาคเกษตรกรรม ก่อสร้าง และประมง ที่ต้องทำงานท่ามกลางแสงแดดและความร้อนสูงเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแรงงานเท่านั้นที่เผชิญกับปัญหานี้ แต่ยังรวมถึงกลุ่มเปราะบางในประเทศกำลังพัฒนา เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย ที่ไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการปกป้องตนเองจากคลื่นความร้อน
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้รายงานว่า ปี ค.ศ. 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ อุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส และบางพื้นที่ทะลุถึง 50 องศา ซึ่งกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความจริงนี้สะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่สังคมโลกต้องร่วมมือกันหาทางออกเพื่อบรรเทาผลกระทบของความร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น
กล่าวโดยสรุป การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความเครียดจากความร้อนในที่ทำงานไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นจริงและส่งผลต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของแรงงานทั่วโลก การรับมือกับปัญหานี้จำเป็นต้องอาศัยมาตรการเร่งด่วน ทั้งด้านนโยบาย สิ่งแวดล้อม และการคุ้มครองแรงงาน เพื่อสร้างสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและยั่งยืนสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต
- อากาศร้อนกระทบแรงงาน เสี่ยงป่วยทั้งกายและใจ ความท้าทายที่ต้องปรับตัวในยุคโลกร้อน
- “แอนตาร์กติกา” กำลังละลาย เสี่ยงไร้น้ำแข็งในช่วงฤดูร้อน ทำสิ่งมีชีวิตหลายชนิดจ่อสูญพันธุ์
- จับตาพายุก่อตัว กระทบเหนือ-อีสาน 24-27 ส.ค.นี้
- บินยุคโลกร้อน หลุมอากาศดุขึ้น 3 เท่า พบหลายเส้นทางเสี่ยงสั่นสะเทือน
- โลกร้อนเขย่าโลกใต้ทะเล ปลาที่คุ้นเคยอาจหายไปตลอดกาล
