
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกว้างไกล ไม่เพียงทำให้สภาพอากาศทั่วโลกผันผวนและรุนแรงขึ้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์ หนึ่งในโรคที่กำลังถูกผลักดันให้เป็นภัยระดับโลกคือ โรคไข้เลือดออก (Dengue fever) งานวิจัยล่าสุดปี ค.ศ. 2025 จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชี้ว่าภาวะโลกร้อนมีส่วนทำให้เกิดผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นกว่า 4.6 ล้านรายต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการรับมืออย่างจริงจัง
เดิมทีโรคไข้เลือดออกพบมากในเขตร้อนชื้น แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น โรคนี้กำลังขยายพื้นที่ระบาดไปไกลกว่าเดิม ทั้งในละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มพบการติดเชื้อในบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยุงลาย Aedes aegypti และ Aedes albopictus ซึ่งเป็นพาหะหลักของโรคเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น จึงกลายเป็นตัวกลางสำคัญที่ทำให้ไข้เลือดออกแพร่กระจายรวดเร็วขึ้น
สรุปข่าว
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบกว้างไกล ไม่เพียงทำให้สภาพอากาศทั่วโลกผันผวนและรุนแรงขึ้น แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์ หนึ่งในโรคที่กำลังถูกผลักดันให้เป็นภัยระดับโลกคือ โรคไข้เลือดออก (Dengue fever) งานวิจัยล่าสุดปี ค.ศ. 2025 จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ชี้ว่าภาวะโลกร้อนมีส่วนทำให้เกิดผู้ติดเชื้อไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นกว่า 4.6 ล้านรายต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากไม่มีการรับมืออย่างจริงจัง
เดิมทีโรคไข้เลือดออกพบมากในเขตร้อนชื้น แต่ด้วยอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น โรคนี้กำลังขยายพื้นที่ระบาดไปไกลกว่าเดิม ทั้งในละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเริ่มพบการติดเชื้อในบางพื้นที่ของสหรัฐอเมริกาและยุโรป ยุงลาย Aedes aegypti และ Aedes albopictus ซึ่งเป็นพาหะหลักของโรคเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น จึงกลายเป็นตัวกลางสำคัญที่ทำให้ไข้เลือดออกแพร่กระจายรวดเร็วขึ้น
ผลการศึกษาพบว่า อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการแพร่เชื้ออยู่ที่ราว 27.8 องศาเซลเซียส เมื่อพื้นที่ที่เคยมีอากาศเย็นเริ่มอุ่นขึ้น การระบาดก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะประเทศที่มีประชากรมาก เช่น เม็กซิโก เปรู และบราซิล แม้ว่าบางพื้นที่ที่ร้อนเกินไปอาจมีผู้ติดเชื้อลดลงเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วโลกกำลังเผชิญกับแนวโน้มการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ งานวิจัยที่วิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วยกว่า 1.4 ล้านชุดจาก 21 ประเทศ ระหว่างปี 1995–2014 พบว่า ภาวะโลกร้อนมีส่วนทำให้เกิดผู้ติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 18 ของทั้งหมด หรือประมาณ 4.6 ล้านรายต่อปี และหากยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับปัจจุบัน จำนวนผู้ป่วยอาจเพิ่มขึ้นอีก 49–76% ภายในปี 2050 นักวิจัยเตือนว่าตัวเลขนี้อาจต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะยังไม่มีข้อมูลจากประเทศใหญ่อย่างอินเดียและหลายพื้นที่ในแอฟริกา อีกทั้งการพบผู้ติดเชื้อในเขตที่ไม่เคยมีมาก่อน เช่น แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และยุโรป เป็นสัญญาณว่าการแพร่ระบาดกำลังลุกลามกว่าที่คาดการณ์ไว้
จากงานวิจัยนี้ชี้ชัดว่า ภาวะโลกร้อนเป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้โรคไข้เลือดออกกลายเป็นปัญหาสาธารณสุขระดับโลก ผู้ติดเชื้อหลายล้านรายต่อปีคือผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ใช่เพียงการคาดการณ์ในอนาคต การแก้ปัญหาจำเป็นต้องอาศัยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ควบคุมยุงลาย เสริมระบบสาธารณสุข และการเข้าถึงวัคซีน หากมนุษยชาติไม่เร่งดำเนินการ โลกอาจต้องเผชิญกับวิกฤตสุขภาพที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมในอนาคตอันใกล้
- “อินโดนีเซีย” เร่งค้นหาสูญหาย น้ำท่วม-ดินถล่ม
- “ปากีสถาน” จมบาดาล ฝนตกหนักมากผิดปกติ สั่งอพยพกว่า 2 ล้านชีวิต
- “สเปน” ปฏิวัติการศึกษา บรรจุหลักสูตรสอนรับมือภัยพิบัติ เตรียมคนรุ่นใหม่สู้โลกร้อน!
- ภัยแล้ง–น้ำท่วมถล่มเอเชีย วิกฤตน้ำส่อพังเศรษฐกิจโลก หากไร้การแก้ไข
- โลกร้อนขึ้น 7 °C ในปี 2100 โลกเสี่ยงอพยพครั้งใหญ่
ที่มาข้อมูล : openaccessgovernment.org
ที่มารูปภาพ : Reuters
