
ที่งานเสวนา “From Climate Change to Disaster” ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า ขณะนี้ปัญหาโลกร้อนกำลังส่งผลโดยตรงต่อสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น ทั้งลมแรง พายุแปรปรวน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหาร
ดร.กรรณิการ์ ระบุว่า ในบางพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เริ่มไม่สามารถปลูกพืชบางชนิดได้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนลดลง ขณะเดียวกันสัตว์ผสมเกสรสำคัญอย่าง “ผึ้ง” ก็ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง เมื่ออากาศร้อนจัด ผึ้งจะหยุดทำงานและไม่อยากอยู่ในรัง ส่งผลให้ไม่มีการผสมเกสร ทำให้ผลไม้ไม่ติดผล และผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างน่ากังวล
สรุปข่าว
ที่งานเสวนา “From Climate Change to Disaster” ซึ่งจัดขึ้นภายในงาน Sustainability Expo 2025 (SX2025) มหกรรมความยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ดร.กรรณิการ์ เฉิน รองผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กล่าวถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศว่า ขณะนี้ปัญหาโลกร้อนกำลังส่งผลโดยตรงต่อสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น ทั้งลมแรง พายุแปรปรวน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหาร
ดร.กรรณิการ์ ระบุว่า ในบางพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เริ่มไม่สามารถปลูกพืชบางชนิดได้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนลดลง ขณะเดียวกันสัตว์ผสมเกสรสำคัญอย่าง “ผึ้ง” ก็ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิสูง เมื่ออากาศร้อนจัด ผึ้งจะหยุดทำงานและไม่อยากอยู่ในรัง ส่งผลให้ไม่มีการผสมเกสร ทำให้ผลไม้ไม่ติดผล และผลผลิตทางการเกษตรลดลงอย่างน่ากังวล
นอกจากนี้ ปัญหาสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงยังกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ โดยพบว่าในบางพื้นที่ที่เดิมไม่เคยมียุง ปัจจุบันกลับเริ่มพบการรบกวนสัตว์จากยุงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ในประเทศฟินแลนด์ กวางเรนเดียร์ซึ่งอาศัยอยู่บนยอดเขาสูง ถูกยุงขนาดใหญ่ที่มีลักษณะใกล้เคียงแมลงสาบบินขึ้นไปรบกวน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและถิ่นอาศัยของสัตว์ ซึ่งกรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย
ดร.กรรณิการ์ ย้ำว่า มนุษย์และสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่อยู่ร่วมกันมาตลอด หากสิ่งแวดล้อมไม่สามารถดำรงอยู่ได้ มนุษย์ก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องหาวิธีปรับตัวและสร้างความยั่งยืนให้ทั้งระบบ
ด้านนายปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการทำงานของกรมลดโลกร้อนว่า จัดตั้งขึ้นเพื่อเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการด้านสภาพภูมิอากาศทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยชี้ว่ากรุงเทพมหานครกำลังเผชิญปัญหาน้ำท่วมใหญ่ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เกิดเป็น “ภัยพิบัติซ้ำซ้อน” แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีมาตรการเชิงบูรณาการที่ชัดเจนในการป้องกันพื้นที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ประวัติศาสตร์ หรือพื้นที่ยุทธศาสตร์ของประเทศ
นายปวิช ย้ำว่า หากสังคมไทยยังไม่เข้าใจและไม่ตระหนักถึงความหมายที่แท้จริงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศไทยจะเผชิญความลำบากอย่างมาก เพราะผลกระทบไม่ได้จำกัดอยู่ที่สิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังลามไปถึงเศรษฐกิจและสังคม โดยประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความเปราะบางสูงต่อผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งดินโคลนถล่ม น้ำท่วม และภัยพิบัติรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งในปีนี้เพียงปีเดียว ภาคเหนือก็ประสบเหตุการณ์ดินโคลนถล่มถึงสองครั้ง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก
ทั้งนี้ แม้ประเทศไทยจะมีทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ซึ่งถือว่ามีความได้เปรียบในเชิงยุทธศาสตร์ แต่เนื่องจากเป็นประเทศที่มีชายฝั่งทะเลยาว เมื่อรวมกับภาวะโลกร้อนและการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก ก็ทำให้ไทยมีความเสี่ยงสูงต่อผลกระทบจากน้ำทะเลหนุนและภัยพิบัติที่รุนแรงขึ้นในอนาคต
- พายุลูกเห็บเกิดน้อยลง เพราะภาวะโลกร้อน แต่ข่าวร้ายคือขนาดลูกเห็บใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
- โลกร้อนทำคนอ้วนขึ้น การออกกำลังกายกลางแจ้งกลายเป็นเรื่องยาก
- เปิดเส้นทางพายุ “บัวลอย” จ่อขึ้นฝั่งที่เวียดนาม 28-29 ก.ย.
- เปิดสาเหตุ “ไต้หวัน” เสียหายหนัก เพราะประเมินพายุต่ำ แม้ “รากาซา” สลายตัวแต่เมืองยังจมโคลน
- โลกจับตา COP30 UN เร่งทุกชาติตั้งเป้าใหม่ ลดก๊าซเรือนกระจกให้เร็วขึ้น
