
รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกเงินอุดหนุนกว่า 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.74 แสนล้านบาท สำหรับโครงการพลังงานสะอาดหลายร้อยโครงการใน 16 มลรัฐ ซึ่งทั้งหมดเป็นรัฐที่ลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตและนางคามาลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีที่แล้ว
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า ได้ยุติโครงการจำนวน 223 โครงการหลังการทบทวนพบว่าไม่ตอบสนองต่อ “ความต้องการพลังงานของชาติ” หรือ “ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ” โดยงบประมาณมาจากหน่วยงานด้านพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนหลายแผนก แต่ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อโครงการที่ถูกยกเลิกโดยละเอียด
องค์กรสิ่งแวดล้อม “สภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ” (NRDC) ระบุว่า การตัดงบครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงการพลังงานแบตเตอรี เทคโนโลยีไฮโดรเจน การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้า และระบบดักจับคาร์บอนในหลายพื้นที่
การตัดงบครั้งนี้ครอบคลุมมลรัฐที่ลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตทั้งหมด ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฮาวาย อิลลินอยส์ แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินนิโซตา นิวแฮมป์เชียร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอเรกอน เวอร์มอนต์ และวอชิงตัน
สรุปข่าว
รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยกเลิกเงินอุดหนุนกว่า 7.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.74 แสนล้านบาท สำหรับโครงการพลังงานสะอาดหลายร้อยโครงการใน 16 มลรัฐ ซึ่งทั้งหมดเป็นรัฐที่ลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตและนางคามาลา แฮร์ริส ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีปีที่แล้ว
กระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ระบุว่า ได้ยุติโครงการจำนวน 223 โครงการหลังการทบทวนพบว่าไม่ตอบสนองต่อ “ความต้องการพลังงานของชาติ” หรือ “ไม่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ” โดยงบประมาณมาจากหน่วยงานด้านพลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียนหลายแผนก แต่ไม่ได้เปิดเผยรายชื่อโครงการที่ถูกยกเลิกโดยละเอียด
องค์กรสิ่งแวดล้อม “สภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ” (NRDC) ระบุว่า การตัดงบครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อโครงการพลังงานแบตเตอรี เทคโนโลยีไฮโดรเจน การพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้า และระบบดักจับคาร์บอนในหลายพื้นที่
การตัดงบครั้งนี้ครอบคลุมมลรัฐที่ลงคะแนนให้พรรคเดโมแครตทั้งหมด ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ ฮาวาย อิลลินอยส์ แมริแลนด์ แมสซาชูเซตส์ มินนิโซตา นิวแฮมป์เชียร์ นิวเจอร์ซีย์ นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก โอเรกอน เวอร์มอนต์ และวอชิงตัน
ในบรรดาโครงการที่ได้รับผลกระทบ มีโครงการพัฒนา “ไฮโดรเจนฮับ” ในรัฐแคลิฟอร์เนีย มูลค่าสูงถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 43,000 ล้านบาท) และโครงการในเขตแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนืออีก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36,000 ล้านบาท) ขณะที่โครงการในรัฐเทกซัส เวสต์เวอร์จิเนีย โอไฮโอ และเพนซิลเวเนียไม่ได้รับผลกระทบ
ฝ่ายเดโมแครตกล่าวว่าการตัดงบครั้งนี้มีเป้าหมายทางการเมือง เพื่อเอาคืนรัฐที่คัดค้านร่างงบประมาณของพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรส พร้อมเตือนว่าจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและเพิ่มภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน
รัฐแคลิฟอร์เนียเปิดเผยว่า โครงการพลังงานไฮโดรเจนภายใต้ชื่อ Alliance for Renewable Clean Hydrogen Energy Systems (ARCHES) ซึ่งมีภาคเอกชนร่วมลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 360,000 ล้านบาท) กำลังถูกคุกคาม และอาจทำให้สูญเสียงานกว่า 200,000 ตำแหน่ง
นักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาดในหลายรัฐวิจารณ์การตัดงบว่าเป็นการตัดสินใจที่สั้นและมุ่งเล่นงานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยชี้ว่ารัฐบาลทรัมป์พยายามทำลายโครงการที่ริเริ่มในยุครัฐบาลโจ ไบเดน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศโลก
ด้านกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ชี้แจงว่าการยกเลิกดังกล่าวเป็น “การตัดสินใจทางธุรกิจ” เพื่อประหยัดงบประมาณของผู้เสียภาษี และยืนยันว่าจะไม่รื้อฟื้นโครงการเหล่านี้ แม้รัฐบาลจะเปิดทำการหลังพ้นวิกฤตชัตดาวน์แล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสิ่งแวดล้อมเตือนว่าการตัดงบครั้งนี้จะทำให้สหรัฐฯ สูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระดับโลก และทำลายความเชื่อมั่นของภาคเอกชนต่อการลงทุนระยะยาว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทรัมป์ยังได้ยกเลิกงบพลังงานสะอาดอีกกว่า 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 468,000 ล้านบาท) ที่เคยอนุมัติภายใต้กฎหมายสภาพภูมิอากาศปี 2565 ในสมัยรัฐบาลไบเดน แต่ยังไม่ได้เบิกจ่าย
