
การอพยพของนกเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งแต่ละชนิดมักจะมีเส้นทางการอพยพที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับถิ่นที่อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่นกมักจะอพยพเพื่อหาอาหาร ขยายพันธุ์ และหลีกหนีอากาศที่เหน็บหนาวไปอยู่ในถิ่นอากาศอบอุ่น และจะอพยพกลับมาอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว แต่วิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบันกำลังทำให้เส้นทางอพยพของนกเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป และบีบบังคับให้เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของพวกมัน จนจำนวนประชากรลดลง และนำไปสู่การพลัดถิ่นอย่างถาวร หรือสูญพันธุ์ในที่สุด
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการอพยพของนกไนติงเกล แม้ว่าจะมีขนาดเล็กจิ๋ว น้ำหนักไม่ถึง 30 กรัม แต่พวกมันสามารถบินข้ามทะเลทรายซาฮาราถึงปีละ 2 ครั้ง ระหว่างอังกฤษกับแอฟริกา ซึ่งมีระยะทางกว่า 9,600 กิโลเมตร โดยหยุดพักตามโอเอซิสในทะเลทราย แต่ปัจจุบันพื้นที่ยุโรปตะวันตกเผชิญกับภัยแล้งและไฟป่าที่รุนแรง ทำให้ไม่มีพื้นที่หยุดพักเพื่อสะสมพลังงานในการบินอพยพต่อ หรือแม้กระทั่งถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมของพวกมันยังถูกคุกคามจากวิกฤตสภาพอากาศ พื้นที่ป่าในอังกฤษลดลง ส่งผลให้ประชากรนกไนติงเกลในอังกฤษลดลงถึงร้อยละ 91 ภายในระยะเวลาเพียง 50 ปี
สรุปข่าว
การอพยพของนกเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ซึ่งแต่ละชนิดมักจะมีเส้นทางการอพยพที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับถิ่นที่อยู่อาศัย โดยส่วนใหญ่นกมักจะอพยพเพื่อหาอาหาร ขยายพันธุ์ และหลีกหนีอากาศที่เหน็บหนาวไปอยู่ในถิ่นอากาศอบอุ่น และจะอพยพกลับมาอีกครั้งเมื่อสิ้นสุดฤดูหนาว แต่วิกฤตสภาพภูมิอากาศโลกในปัจจุบันกำลังทำให้เส้นทางอพยพของนกเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป และบีบบังคับให้เปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงจรชีวิตของพวกมัน จนจำนวนประชากรลดลง และนำไปสู่การพลัดถิ่นอย่างถาวร หรือสูญพันธุ์ในที่สุด
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาการอพยพของนกไนติงเกล แม้ว่าจะมีขนาดเล็กจิ๋ว น้ำหนักไม่ถึง 30 กรัม แต่พวกมันสามารถบินข้ามทะเลทรายซาฮาราถึงปีละ 2 ครั้ง ระหว่างอังกฤษกับแอฟริกา ซึ่งมีระยะทางกว่า 9,600 กิโลเมตร โดยหยุดพักตามโอเอซิสในทะเลทราย แต่ปัจจุบันพื้นที่ยุโรปตะวันตกเผชิญกับภัยแล้งและไฟป่าที่รุนแรง ทำให้ไม่มีพื้นที่หยุดพักเพื่อสะสมพลังงานในการบินอพยพต่อ หรือแม้กระทั่งถิ่นที่อยู่อาศัยเดิมของพวกมันยังถูกคุกคามจากวิกฤตสภาพอากาศ พื้นที่ป่าในอังกฤษลดลง ส่งผลให้ประชากรนกไนติงเกลในอังกฤษลดลงถึงร้อยละ 91 ภายในระยะเวลาเพียง 50 ปี
นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัมระบุว่า ภาวะโลกร้อนทำให้หงส์เบวิกในยุโรป ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการอพยพ จากเดิมพวกมันจะบินหลบหนาวไปยังอังกฤษ แต่ปัจจุบันพวกมันหยุดอพยพในระยะสั้น เนื่องจากพื้นที่ใกล้ๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้นจากเดิม จนไม่ต้องบินไกลอีกต่อไป แต่ขณะเดียวกันการอพยพในเส้นทางที่แตกต่างจากปกติกลับทำให้พวกมันถูกล่าและคุกคามโดยมนุษย์แทน
ภาวะโลกร้อนส่งผลให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไป หลายพื้นที่ซึ่งเป็นเส้นทางอพยพของกลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ไร้อาหาร ไม่มีพื้นที่หยุดพัก นกบางชนิดต้องบินไกลขึ้น หรือต้องเปลี่ยนเส้นทางการบินที่อันตรายมากกว่าเดิม ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไปยังส่งผลต่อการไม่สอดคล้องของช่วงเวลาในห่วงโซ่อาหาร เมื่อนกอพยพมาแต่กลับไม่ตรงกับช่วงเวลาของวงจรอาหารในระบบนิเวศซึ่งกระทบต่อสมดุลธรรมชาติ ภัยคุกคามเหล่านี้ทำให้อัตราการรอดชีวิตระหว่างอพยพของพวกมันลดลงไปจากเดิม และเพิ่มโอกาสเสี่ยงสูญพันธุ์มากขึ้น
การลดลงของจำนวนประชากรนกอาจดูห่างไกลที่มนุษย์จะได้รับผลกระทบ แต่ในความเป็นจริง นกเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อระบบนิเวศที่มนุษย์ต้องพึ่งพา ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมแมลงศัตรูพืช หากประชากรนกลดลง อาจหมายถึงแมลงชนิดใดชนิดหนึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นเพราะขาดผู้ล่าตามธรรมชาติในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งอาจเป็นพาหะโรคต่างๆ สู่มนุษย์ นอกจากนี้นกยังเป็นผู้กระจายเมล็ดพันธุ์พืชตามธรรมชาติอีกด้วย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนกอาจส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ ซึ่งในอนาคตอาจรุนแรงจนไม่สามารถแก้ไขได้อีก
- วิกฤตสภาพภูมิอากาศ ทำคนเสียชีวิตนับล้านต่อปี อย่าปล่อยให้โลกถึงจุดที่มนุษย์อยู่ไม่ได้
- แคนาดาสู้โลกร้อน ผุดโครงการปลูกต้นไม้ 2 พันล้านต้น
- “โลกร้อน” ทำให้บ้านไร้มูลค่า และระบบการเงินสั่นคลอน
- เตือนผลิตแร่หายาก ภัยที่ซ่อนในเทคโนโลยีสะอาด ผลิต 1 ตัน ทิ้งพิษ 2,000 ตัน
- UN ชี้ทั่วโลกเมิน “มีเทน” รั่ว ทั้งที่เป็นหนทางเร็วที่สุด ในการช่วยหยุดโลกร้อน!
ที่มาข้อมูล : The Guardian, BBC
ที่มารูปภาพ : Envato
