
ผู้โดยสารที่กลัวการบินอาจต้องเผชิญความกังวลเพิ่มขึ้น หลังนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศ (climate crisis) กำลังทำให้ “ความปั่นป่วนของอากาศ” หรือ turbulence ทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความสบายของผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ความปั่นป่วนบนเครื่องบินมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- ความปั่นป่วนในอากาศ (clear-air turbulence) ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นักบินอาจเจอในท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเนื่องจากความแปรปรวนของกระแสลมเจ็ต (jet stream) ในระดับความสูงที่เครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่ใช้บินประหยัดเชื้อเพลิง ทำให้เกิด “การเฉือนของลม (wind shear)” ที่สามารถทำให้เครื่องบินสั่นสะเทือนได้อย่างรุนแรง
- ความปั่นป่วนจากคลื่นภูเขา (mountain-wave turbulence) เกิดจากลมแรงที่พัดผ่านยอดเขาสูง เช่น เทือกเขาร็อกกีในอเมริกาเหนือ หรือภูเขาในกรีนแลนด์ คลื่นอากาศเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่บินอยู่ไกลออกไปหลายร้อยไมล์
- ความปั่นป่วนจากเมฆคิวมูลัสขนาดใหญ่ (cumulus turbulence) ซึ่งมักมากับพายุฝนฟ้าคะนอง อากาศภายในก้อนเมฆสามารถเคลื่อนตัวขึ้นและลงด้วยความเร็วสูง จนทำให้เครื่องบินออกนอกเส้นทางการบินได้
สรุปข่าว
ผู้โดยสารที่กลัวการบินอาจต้องเผชิญความกังวลเพิ่มขึ้น หลังนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศ (climate crisis) กำลังทำให้ “ความปั่นป่วนของอากาศ” หรือ turbulence ทวีความรุนแรงและเกิดบ่อยขึ้นทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความสบายของผู้โดยสารสายการบินระหว่างประเทศ
ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่า ความปั่นป่วนบนเครื่องบินมีอยู่ 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- ความปั่นป่วนในอากาศ (clear-air turbulence) ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นักบินอาจเจอในท้องฟ้าที่ปลอดโปร่งเนื่องจากความแปรปรวนของกระแสลมเจ็ต (jet stream) ในระดับความสูงที่เครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่ใช้บินประหยัดเชื้อเพลิง ทำให้เกิด “การเฉือนของลม (wind shear)” ที่สามารถทำให้เครื่องบินสั่นสะเทือนได้อย่างรุนแรง
- ความปั่นป่วนจากคลื่นภูเขา (mountain-wave turbulence) เกิดจากลมแรงที่พัดผ่านยอดเขาสูง เช่น เทือกเขาร็อกกีในอเมริกาเหนือ หรือภูเขาในกรีนแลนด์ คลื่นอากาศเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบต่อเครื่องบินที่บินอยู่ไกลออกไปหลายร้อยไมล์
- ความปั่นป่วนจากเมฆคิวมูลัสขนาดใหญ่ (cumulus turbulence) ซึ่งมักมากับพายุฝนฟ้าคะนอง อากาศภายในก้อนเมฆสามารถเคลื่อนตัวขึ้นและลงด้วยความเร็วสูง จนทำให้เครื่องบินออกนอกเส้นทางการบินได้
นักอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังทำให้ความปั่นป่วนทั้งสามประเภทนี้รุนแรงขึ้น เนื่องจากกระแสลมเจ็ตมีความผันผวนมากกว่าเดิม และบรรยากาศของโลกโดยรวมมีแนวโน้มไม่เสถียรมากขึ้น สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งสหราชอาณาจักร (Met Office) กำลังพัฒนาแบบจำลองเพื่อคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงสำหรับอุตสาหกรรมการบิน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินแนะนำว่า ผู้โดยสารควรคาดเข็มขัดนิรภัยตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนที่นั่ง แม้ไฟสัญญาณคาดเข็มขัดจะดับลงก็ตาม เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากความปั่นป่วนของสภาพอากาศที่เกิดขึ้น
ในขณะที่สายการบินทั่วโลกเร่งปรับตัวกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาความปั่นป่วนในอากาศอาจกลายเป็น “ความท้าทายใหม่ของการบินในยุคโลกร้อน” ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป
- “โลกร้อน” เร่งภัยพิบัติรุนแรง คลื่นความร้อน ฝน ภัยแล้ง ไฟป่า เตรียมพร้อมถล่มโลกใบนี้
- “เจ้าชาย” ที่ไม่รอปาฏิหาริย์ แต่ต้องสร้างขึ้นมาเอง เพื่อให้โลกน่าอยู่กว่าเดิม
- วิกฤตสภาพภูมิอากาศ ทำคนเสียชีวิตนับล้านต่อปี อย่าปล่อยให้โลกถึงจุดที่มนุษย์อยู่ไม่ได้
- แคนาดาสู้โลกร้อน ผุดโครงการปลูกต้นไม้ 2 พันล้านต้น
- “โลกร้อน” ทำให้บ้านไร้มูลค่า และระบบการเงินสั่นคลอน
