สรุปสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลล่าสุด ความจุ 97% - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ล้น 101%

Share on Line Share on Facebook Share on X
สรุปสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลล่าสุด ความจุ 97% - เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ล้น 101%

กรมอุตุวิทยารายงานสภาพภูมิอากาศ และ สถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุด มีรายละเอียดดังนี้ ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง อ่าวไทยตอนบน และภาคตะวันออก ขณะที่มวลอากาศเย็นจากจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า

พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา ที่ยังคงมีฝนตกหนัก

สรุปข่าว

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โดยรวมยังคงสูงถึง 97% ของน้ำใช้การ โดยเขื่อนหลัก 3 แห่งมีน้ำเกิน 96% และ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำล้นความจุแล้วที่ 101% ขณะเดียวกัน ประเทศไทยเตรียมรับมืออิทธิพลของ พายุดีเปรสชัน “คัลแมกี” ซึ่งจะเคลื่อนเข้าปกคลุมจังหวัดอุบลราชธานีในวันที่ 7 พ.ย. และทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบนเพิ่มขึ้นอีก

กรมอุตุวิทยารายงานสภาพภูมิอากาศ และ สถานการณ์น้ำในเขื่อนล่าสุด มีรายละเอียดดังนี้ ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง อ่าวไทยตอนบน และภาคตะวันออก ขณะที่มวลอากาศเย็นจากจีนที่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอากาศเย็นในตอนเช้า

พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังคือ ภาคใต้ตอนล่าง โดยเฉพาะจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง และพังงา ที่ยังคงมีฝนตกหนัก

พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" (KALMAEGI) ซึ่งขณะนี้อยู่ในทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศเวียดนามตอนกลางในช่วงวันที่ 6–7 พ.ย. 68 จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและเคลื่อนผ่านประเทศลาว โดยจะเข้าปกคลุมบริเวณ จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงวันที่ 7 พ.ย. 68 ก่อนจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

ปริมาณฝนสูงสุด 3 ลำดับแรก (24 ชั่วโมง)

ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา พื้นที่ภาคใต้มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด โดย 3 ลำดับแรก ได้แก่:

1. อ. ตลาด จ. ภูเก็ต ปริมาณฝน 92.8 มม.

2. อ. ตะกั่วทุ่ง จ. พังงา ปริมาณฝน 72.5 มม.

3. อ. ปะทิว จ. ชุมพร ปริมาณฝน 58.0 มม.

สถานการณ์น้ำในเขื่อน

ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศยังคงอยู่ในระดับสูง โดยภาพรวมอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 25 แห่ง มีปริมาณน้ำใช้การรวมกันอยู่ที่ 97% ของความจุทั้งหมด

ปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลัก ล่าสุด

  1. เขื่อนภูมิพล: มีปริมาณน้ำรวม 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 97% ของน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลเข้า 85.88 ล้าน ลบ.ม./วัน และระบายออก 90.80 ล้าน ลบ.ม./วัน
  2. เขื่อนสิริกิติ์: มีปริมาณน้ำรวม 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 96% ของน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลเข้า 10.92 ล้าน ลบ.ม./วัน และระบายออก 10.91 ล้าน ลบ.ม./วัน
  3. เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน: มีปริมาณน้ำรวม 22,972 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 97% ของน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลเข้า 96.80 ล้าน ลบ.ม./วัน และระบายออก 101.71 ล้าน ลบ.ม./วัน
  4. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์: มีปริมาณน้ำรวม 939 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 101% ของน้ำใช้การได้ ปริมาณน้ำไหลเข้า 4.33 ล้าน ลบ.ม./วัน และระบายออก 5.79 ล้าน ลบ.ม./วัน

ข้อสรุปสถานการณ์เขื่อน

- เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีน้ำล้นความจุแล้วที่ 101% ทำให้ต้องมีการเร่งระบายน้ำออกอย่างต่อเนื่อง (5.79 ล้าน ลบ.ม./วัน) เพื่อรักษาระดับน้ำ

- เขื่อนหลักอื่น ๆ ยังคงมีปริมาณน้ำใช้การอยู่ในระดับสูงที่ 96%-97% โดยยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำไหลเข้าจากอิทธิพลของพายุ "คัลแมกี" ในระยะต่อไป

ที่มาข้อมูล : กรมชลประทาน

ที่มารูปภาพ : กรมชลประทาน