
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือการติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ เพื่อบริหารจัดการน้ำตามสถานการณ์ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศพบว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปในวันนี้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง จากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 11–12 พฤศจิกายนนี้ ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่ภาคเหนือและภาคอีสานจะเริ่มมีอากาศเย็นลงจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีน
สรุปข่าว
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือการติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ และการคาดการณ์ เพื่อบริหารจัดการน้ำตามสถานการณ์ สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศพบว่าสภาพอากาศโดยทั่วไปในวันนี้ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองต่อเนื่อง จากอิทธิพลของลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย โดยคาดว่าในช่วงวันที่ 11–12 พฤศจิกายนนี้ ภาคใต้จะมีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขณะที่ภาคเหนือและภาคอีสานจะเริ่มมีอากาศเย็นลงจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงจากประเทศจีน
ส่วนปริมาณน้ำที่สถานีวัดระดับน้ำหลักยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่ง โดยที่สถานี C.2 จังหวัดนครสวรรค์ น้ำไหลผ่านประมาณ 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ต่ำกว่าตลิ่งเกือบ 1 เมตร ส่วนที่เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ระบายน้ำอยู่ที่ 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และที่สถานีสามโคก จังหวัดปทุมธานี ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 30 เซนติเมตร แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์น้ำในลุ่มเจ้าพระยายังไม่ถึงจุดวิกฤต
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงเดินหน้ามาตรการป้องกันน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง โดยกรมชลประทานได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในหลายพื้นที่ เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในเขตชุมชน ทั้งที่จังหวัดนครสวรรค์ พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี
ขณะเดียวกัน กองทัพบกได้ส่งกำลังพลจิตอาสาช่วยเสริมแนวคันกั้นน้ำและซ่อมแซมแนวพนังที่ชำรุด ในพื้นที่เสี่ยงริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีน โดยเฉพาะในจังหวัดอ่างทองและสุพรรณบุรี เพื่อป้องกันน้ำล้นตลิ่งเข้าพื้นที่วัด โรงเรียน และบ้านเรือนของประชาชน
ล่าสุด วันที่ 10 พ.ย.68 ‘โครงการชลประทาน พระนครศรีอยุธยา‘ ขอแจ้งปรับเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาโดยเริ่มเวลา 16.00 น. ทยอยจากอัตรา 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็นอัตรา 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
แต่ด้านสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สทนช.ยืนยันไม่ท่วมซ้ำรอยปี 54 เพราะปีที่น้ำท่วมนั้น มีการระบายน้ำถึง 3,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ถือว่ายังต่ำกว่าปี 54 ถึง 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงทำให้ชาวกรุงเทพฯไม่ต้องกังวลใจอะไร อาจจะเห็นน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยากระฉอกข้ามคันกันน้ำมา เป็นเพียงสถานการณ์น้ำทะเลหนุนเท่าน้้น โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำสูบกลับเข้าแม่น้ำเจ้าพระยารับมือรับมือสถานการณ์ไว้แล้ว
- เทียบสถานการณ์น้ำไทย 5 ปี ปี 2568 น้ำมากสุด กรุงเทพฯเอาอยู่
- จับตา “เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำเพิ่ม เหตุน้ำเหนือทะลัก เตือนพื้นที่ริมน้ำยกของขึ้นที่สูง
- ปภ. ส่ง Cell Broadcast แจ้งเตือนจ.สมุทรปราการ พื้นที่เสี่ยงเตรียมรับมือระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น
- “เขื่อนเจ้าพระยา” เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำ เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนยกของขึ้นที่สูง
- เช็กด่วน! จังหวัดปทุมธานี-นนทบุรีและกทม. พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
ที่มาข้อมูล : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ, กรมชลประทาน
ที่มารูปภาพ : กรมชลประทาน, TNN
