
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำปิงยังคงตึงตัวจากฝนที่ตกต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสะสมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จึงเดินหน้าประชุมเพื่อทบทวนและปรับแผนบริหารจัดการน้ำของเขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นเขื่อนหลักที่ส่งน้ำลงสู่แม่น้ำปิง ก่อนจะไหลรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านนายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. เป็นประธาน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งในพื้นที่ จ.ตาก และผ่านระบบออนไลน์ ผลการประชุมมีมติให้ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 68 จากเดิมวันละ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร และปรับลดอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ย. เหลือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อชะลอการไหลของน้ำลงสู่แม่น้ำปิงและให้ระดับน้ำค่อย ๆ ลดลงอย่างปลอดภัย คาดว่าการปรับลดนี้จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงเพิ่มเติม 0.1–0.15 เมตร

สรุปข่าว
สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำปิงยังคงตึงตัวจากฝนที่ตกต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมสะสมเป็นเวลาหลายสัปดาห์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) จึงเดินหน้าประชุมเพื่อทบทวนและปรับแผนบริหารจัดการน้ำของเขื่อนภูมิพล ซึ่งเป็นเขื่อนหลักที่ส่งน้ำลงสู่แม่น้ำปิง ก่อนจะไหลรวมกับแม่น้ำเจ้าพระยา
ด้านนายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการ สทนช. เป็นประธาน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทั้งในพื้นที่ จ.ตาก และผ่านระบบออนไลน์ ผลการประชุมมีมติให้ปรับลดการระบายน้ำของเขื่อนภูมิพลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 68 จากเดิมวันละ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร และปรับลดอีกครั้งในวันที่ 17 พ.ย. เหลือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อชะลอการไหลของน้ำลงสู่แม่น้ำปิงและให้ระดับน้ำค่อย ๆ ลดลงอย่างปลอดภัย คาดว่าการปรับลดนี้จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปิงลดลงเพิ่มเติม 0.1–0.15 เมตร

ในเวลาเดียวกัน กรมชลประทานได้เพิ่มการผันน้ำเข้าสู่ระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออก เพื่อแบ่งเบาปริมาณน้ำที่ต้องผ่านเขื่อนเจ้าพระยา คาดว่าในช่วงวันที่ 20–24 พ.ย. การระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาจะลดลงเหลือ 2,400–2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะช่วยให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดต่ำลงอีก 0.4–0.75 เมตร ถือเป็นความพยายามร่วมกันของทุกหน่วยงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนท้ายเขื่อนที่เผชิญปัญหาน้ำท่วมต่อเนื่องมาหลายเดือน
ขณะเดียวกัน สถานการณ์อุทกภัยล่าสุด พบพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 13 จังหวัด 52 อำเภอ ครอบคลุมตั้งแต่สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี ชัยนาท อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม ไปจนถึงอุบลราชธานี หลายพื้นที่ยังคงมีระดับน้ำสูงและต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
การปรับลดการระบายน้ำเขื่อนภูมิพลและการผันน้ำของกรมชลประทานเป็นมาตรการสำคัญเพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลสู่พื้นที่ลุ่มต่ำตอนล่าง โดยเฉพาะเขื่อนเจ้าพระยา ซึ่งเป็นคอขวดหลักของระบบน้ำประเทศ ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ มีเป้าหมายเพื่อเร่งลดระดับน้ำให้เร็วที่สุด ช่วยคลี่คลายสถานการณ์อุทกภัยใน 13 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบต่อเนื่อง และสร้างเสถียรภาพให้ระบบบริหารจัดการน้ำก่อนเข้าสู่ช่วงต้นฤดูแล้ง
ที่มา: กรมชลประทาน, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
- "ชัยนาท" ยังวิกฤต หลายชุมชนน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร
- “เขื่อนภูมิพล” ปรับลดการระบายน้ำ
- อยุธยาฯ ยังสาหัส บางจุดน้ำท่วมสูง 4-5 เมตร เดือดร้อนกว่า 6 หมื่นหลังคาเรือน
- ภาพรวมน้ำทั่วประเทศ 15 พ.ย. 68 อ่างเก็บน้ำน้ำเต็ม 90% อากาศเย็น–ใต้ฝนเพิ่ม
- พนังกั้นน้ำพัง "ชัยนาท" ท่วม 300 หลังคา “เขื่อนเจ้าพระยา” ลดการระบายลง
ที่มาข้อมูล : กรมชลประทาน, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ที่มารูปภาพ : กรมชลประทาน
